นานนับสิบปีที่นักเรียนในประเทศญี่ปุ่นมีข่าวมากมายเกี่ยวกับการถูกละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการมีความรักในวัยเรียน สีผม หรือแม้แต่เครื่องแบบ
จากการสำรวจพบว่ามีนักเรียนหลายคนถูกบังคับให้ย้อมสีผมเป็นสีดำแม้ว่าจริงๆ แล้วจะมีผมสีน้ำตาลธรรมชาติ หรือแม้แต่ที่น่าตกใจที่สุด คือการบังคับให้เผยชุดชั้นในเพื่อตรวจว่าพวกเธอสวมใส่รูปแบบตามระเบียบของโรงเรียนหรือไม่
ตัวอย่างคดีความเกี่ยวกับสีผมในประเทศญี่ปุ่น : นักเรียนหญิง ได้รับเงินชดเชยเกือบแสน เหตุ “ครูสั่งให้ย้อมดำซ้ำๆ” ฟ้องร้องเกือบ 4 ปี
กฎระเบียบที่เคร่งครัดเหล่านี้มีในหลายโรงเรียนทั่วประเทศมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ โดยอ้างว่าเพื่อรักษาความเท่าเทียมในหมู่นักเรียน ทั้งเรื่องการย้อมผม การห้ามออกเดทในหมู่นักเรียน หรือแม้แต่การกำหนดให้ต้องสวมใส่ชุดชั้นในสีขาวหรือสีเพจเพราะเหตุผลด้าน “สุขอนามัย”
สิ่งนี้เองนำไปสู่การถกเถียงในวงกว้าง ซึ่งได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากชาวญี่ปุ่นที่ออกมาเรียกร้องให้มีการทบทวนกฎระเบียบเหล่านี้อีกครั้ง เนื่องจากพวกเขามองว่ามันเป็นการขัดต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมาย
เมื่อเร็วๆ จึงได้มีประกาศจากจังหวัดซากะว่าจะยกเลิกการตรวจสอบชุดชั้นใน รวมทั้งโรงเรียนมัธยมรัฐบาลทั้งหมดในเขตจังหวัดมิเอะ ได้ยกเลิกกฎดังกล่าว นับตั้งแต่ภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นมา หลังจากได้ทราบผลสำรวจในปี 2019 ที่พบว่ามีโรงเรียนมัธยมของรัฐ ถึง 54 แห่งจาก 24 จังหวัดยังคงใช้กฎนี้อยู่
โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการเป็นผู้อธิบายว่ากฎระเบียบที่เคร่งครัดเหล่านี้ล้าหลังแค่ไหน และเหตุใดจึงไม่สมควรนำมาใช้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเพื่อผลักดันให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในวงกว้าง
ทั้งนี้ ได้มีการส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการทั่วประเทศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเพื่อขอให้โรงเรียนอื่นๆ ทบทวนกฎระเบียบและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต
การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงส่งผลเพื่อรักษาสิทธิ์ และขจัดความกังวลของนักเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนครูในโรงเรียน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการรับฟังเสียงของประชาชนเพื่อให้สามารถนำไปสู่อนาคตที่เปลี่ยนแปลงร่วมกันได้
ที่มา: soranews24