สังคมญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องของชาตินิยม กฎระเบียบที่เคร่งครัด ซึ่งมีการปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ
ที่โรงเรียน มักมีธรรมเนียมให้นักเรียนสวมเครื่องแต่งกายที่ถูกระเบียบ โดยมีครูปกครองคอยตรวจตราที่หน้าประตูโรงเรียน ดังที่เรามักจะเห็นตามภาพยนตร์ หรืออนิเมะ ซึ่งหนึ่งในเรื่องสำคัญก็คือ “สีผม”
แม้ว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีเส้นผมสีดำตามธรรมชาติ ทว่าก็มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่เกิดมาพร้อมกับผมสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งมักจะถูกทางโรงเรียนสั่งให้ย้อมผมเป็นสีดำด้วยเหตุผลที่ว่า “พวกเขาไม่เชื่อว่านี่คือสีผมตามธรรมชาติ”
เรื่องราวที่คุณกำลังจะได้อ่านนี้ เกิดขึ้นเมื่อราวปี 2015 เมื่อนักเรียนหญิงคนหนึ่งถูกครูบังคับให้ย้อมผมซ้ำๆ จนนำไปสู่การฟ้องร้องและกลายเป็นคดีความที่ยืดเยื้อมานานถึง 4 ปี
นักเรียนหญิงคนดังกล่าว ซึ่งในขณะนั้นมีอายุได้ 18 ปี เป็นนักเรียนของไคฟุคัง โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดโอซาก้า ได้เปิดเผยเรื่องราวว่าเธอถูกบังคับให้ย้อมสีผมซ้ำๆ เพราะครูไม่เชื่อว่าผมสีน้ำตาลเป็นสีธรรมชาติ
แม้ว่าเธอจะพยายามอธิบาย แต่ครูทั้ง 3 คนที่ตรวจสอบเรื่องนี้ให้เหตุผลว่าโคนผมของเธอเป็นสีดำ จึงทำให้พวกเขาเชื่อว่าเธอทำสีผม และเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ เธอจึงต้องย้อมกลับให้เป็นสีเดิม
จากการบอกเล่าเพิ่มเติม นักเรียนหญิงคนดังกล่าวได้รับคำเตือนว่า หากเธอไม่ย้อมผมกลับ ก็ไม่ต้องมาเรียนอีกต่อไป ซึ่งสิ่งนี้ได้สร้างความทุกข์ใจและความกดดันให้กับตัวเธออย่างมาก จนในที่สุดจึงตัดสินใจหยุดเรียน จากนั้นจึงทราบว่าทางโรงเรียนได้ลบรายชื่อเธอออกจากบัญชีรายชื่อนักเรียนในภายหลัง
เรื่องนี้นำไปสู่การฟ้องร้องในปี 2017 โดยนักเรียนหญิงคนดังกล่าวได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอเงินชดเชยจากความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น จำนวน 2.2 ล้านเยน (ประมาณ 640,000 บาท)
เรื่องนี้ดำเนินการพิจารณาอย่างยาวนานกว่า 4 ปี จนในที่สุด เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลแขวงโอซากาก็ตัดสินว่าในคดีนี้ไม่มีผู้ชนะคดี เนื่องจากเป็นการกระทำที่ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล
Noriko Yokota ผู้พิพากษาในคดีนี้ให้เหตุผลว่า การที่โรงเรียนมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกายเพื่อรักษาระเบียบวินัยของนักเรียน ทำให้ทุกการออกคำสั่งอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของโรงเรียนอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะสั่งให้นักเรียนย้อมสีผม เพราะในกรณีนี้เธอไม่ได้มีเจตนาที่จะทำผิดกฎของโรงเรียน
แม้จะไม่ชนะคดี แต่นักเรียนหญิงคนดังกล่าวก็ได้รับเงินชดเชย เนื่องจากทางศาลพิจารณาว่าการกระทำของบุคลากรทั้งเรื่องบังคับให้ย้อมสีผม การพูดจาที่รุนแรง (เรื่องสั่งให้ไม่ต้องมาเรียนอีกต่อไป) และการลบรายชื่อออกจากบัญชีนักเรียนนั้นเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และไม่สามารถยอมรับได้
นักเรียนหญิงได้รับเงินชดเชยจำนวน 330,000 เยน (ประมาณ 90,000 บาท) ซึ่งน้อยกว่าที่เธอเรียกร้องไปมาก ทนายฝ่ายเด็กสาวแสดงความผิดหวังต่อศาล ในเรื่องนี้ ทั้งยังไม่มีการเอาผิดทางกฎหมายใดๆ สำหรับโรงเรียนที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานของนักเรียน จึงนำไปสู่ความไม่พอใจในวงกว้าง
ทางฝ่ายโรงเรียน ไม่มีการยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน และพวกเขายอมรับว่าจะต้องมีการสร้างความเข้าใจระหว่างครู นักเรียน และผู้ปกครองให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาอีก
“เราคงจะไม่เปลี่ยนมาตรฐานในการพิจารณาเรื่องการย้อมสีผมของนักเรียน แต่เรื่องในครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องเรียนรู้ เพื่อให้รู้ว่าครั้งหน้า เราควรให้คำแนะนำอย่างไรจึงจะดีกว่าสำหรับนักเรียนของเรา ”
ที่มา: soranews24