รู้จักตัวย่อ “หลักสูตรปริญญาโท” สำหรับเรียนต่อต่างประเทศ แต่ละอันต่างกันอย่างไรนะ?

สำหรับใครที่เคยเล็งๆ อยากเรียนต่อในต่างประเทศ เชื่อว่าต้องเคยผ่านตากับบรรดาตัวย่ออย่าง “MA, MSc, Mres, MPhil และ MSt” กันบ้าง??

สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร วันนี้ Wegointer มีคำตอบมาให้ค่ะ :D

 

 

ตัวย่อเหล่านี้คือประเภทของหลักสูตรซึ่งใช้สำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาโท โดยมากนิยมในสหราชอาณาจักร และมีหลายประเทศที่ใช้ตัวย่อแตกต่างกันไปแม้จะเป็นหลักสูตรเดียวกัน

ด้วยความที่การเรียนบัณฑิตศึกษาในสหราชอาณาจักรนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือการเรียนแบบเรียนจริงๆ กับการเรียนที่เน้นการวิจัย ดังนั้นตัวย่อเหล่านี้จึงจะเป็นเหมือนตัวกำหนดว่าหลักสูตรที่คุณสนใจนั้นมีรูปแบบไหนนั่นเองค่ะ

เอาล่ะ เมื่อรู้แล้วว่าตัวย่อพวกนี้คืออะไร ทีนี้มาดูกันค่ะว่าแต่ละตัวนั้นหมายถึงหลักสูตรแบบไหนกันบ้าง??

 

 

MA : Master of Arts

เป็นหลักสูตรเน้นเกี่ยวกับศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ ส่วนใหญ่คณะที่จะใช้หลักสูตรนี้ก็จะอยู่ในกลุ่มของ นิเทศศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ภาษาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และประวัตศาสตร์ ฯลฯ

 

MS, MSc : Master of Science

สำหรับหลักสูตรนี้จะครอบคลุมคณะที่เกี่ยวข้องกับสายวิทยาศาสตร์ทั้งหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชีววิทยา เคมีวิทยา วิศวกรรมศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์สุขภาพ ในบางสถาบันอาจมีการรวมเศรษฐศาสตร์และสังคมศาสตร์เข้ามาอยู่ในหมวดหมู่นี้ด้วย

 

MRes : Master of Research

หลักสูตรนี้จะเน้นที่การวิจัยโดยเฉพาะ ถือเป็นหลักสูตรที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนปริญญาโทและต่อไปยังปริญญาเอก มีหลากหลายสาขาแยกย่อยขึ้นอยู่กับความสนใจในหัวข้อวิจัยของผู้เรียนค่ะ

 

MPhil : Master by Research

ชื่ออาจคล้ายกับตัวย่อก่อนหน้า แต่จริงๆ มีความแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ นั่นเพราะ MPhil ตัวนี้จะเป็นหลักสูตรที่เน้นเฉพาะหัวข้อที่สนใจจริงๆ แล้วทำวิจัยแบบเจาะลึกเพื่อให้รู้แจ้งมากที่สุดผ่านการทำวิจัยชิ้นใหญ่

 

MSt : Master of Studies

หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรเฉพาะที่มีเพียงบางสถาบันเท่านั้น มีความคล้ายคลึงกับหลักสูตรแบบ MA หรือ MSc ที่จะเน้นการเรียนการสอนในห้องมากกว่าการทำวิจัยในห้อง Lab

สิ่งที่ทำให้แตกต่างกันกับ MA หรือ MSc ก็คือการเรียนแบบ MSt ต้องลงทะเบียนในหลักสูตรที่มากกว่าแบบ MA หรือ MSc กว่าจะได้วุฒิการศึกษาแบบนี้นั่นเองค่ะ

Tips: การเรียนด้วยหลักสูตรที่เน้นการวิจัยมักใช้เวลาเรียนมากกว่าหลักสูตรทั่วไป เนื่องจากระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับหัวข้อที่เลือกศึกษานั่นเองค่ะ

 

 

จะเห็นได้ว่าแต่ละหลักสูตรได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับการศึกษาที่มีรูปแบบหลากหลาย เพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการเรียนการสอน และยังทำให้ผู้เรียนได้เจาะลึกในเรื่องที่สนใจจริงๆ อีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังวางแผนเพื่อเรียนต่อ ลองนำข้อมูลนี้ไปใช้เพื่อให้เลือกหลักสูตรที่ตรงใจได้มากที่สุดกันได้เลยค่า :D

 

ที่มาข้อมูล: siuk-thailand

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE

ดูเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ...