คำกล่าวที่่ว่า “ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตอนไหน” ดูเหมือนจะถูกพิสูจน์อยู่บ่อยครั้ง เพราะเรื่องราวของ “เรือไททานิค” ที่จมสู่ก้นมหาสมุทรในระยะเวลาเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อวันที่ 14 เมษายน 1912 ได้กลายเป็นทั้งตำนานและฝันร้ายชั่วชีวิตของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว
อ่านเรื่องราวปริศนาที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ของไททานิคได้ที่นี่
จากเหตุการณ์ที่ไททานิคชนกับภูเขาน้ำแข็งจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1,500 คนนั้น มีผู้รอดชีวิตราวๆ 706 คนที่สามารถลงชูชีพได้ทันเวลา และนี่คือเรื่องราวของคนกลุ่มนั้น ซึ่งหนึ่งในนั้น อายุได้เพียง 2 เดือนขณะที่เจอเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิต
Molly Brown
เศรษฐีใหม่ผู้ล่องเรือด้วยความสำราญ ทว่ากลับต้องพบกับฝันร้ายที่ทำให้เธอจดจำไปชั่วชีวิต
เมื่อได้รับการช่วยเหลือ Brown มอบทั้งอาหารและผ้าห่มให้กับผู้สูญเสีย จนกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง นอกจากนั้นเธอยังเป็นผู้ที่เรียกร้องให้มีการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการเลือกตั้งของผู้หญิง ทั้งยังตั้งศูนย์ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในประเทศฝรั่งเศสสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
Madeleine Astor
ในวัย 18 ปี หญิงสาวพึ่งแต่งงานเมื่อเดินทางไปกับเรือไททานิค เธอได้พบกับเรื่องอื้อฉาวจากการแต่งงานกับ JJ Astor ชายวัย 47 ขณะนั้นเธอกำลังเดินทางกลับบ้านและตั้งครรภ์อยู่
Astor รอดชีวิตแต่สามีของเธอไม่รอดจากการจมน้ำ หญิงสาวอยู่ในสภาวะสับสน แม้ว่าในภายหลังจะได้ให้กำเนิดลูกน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่ความสนใจจากสาธารณชนที่มีต่อเธอในฐานะผู้รอดชีวิต ทำให้เธอเหมือนเจอกับฝันร้ายซ้ำๆ
ในปี 1916 เธอแต่งงานใหม่และหย่าร้างกับนักมวยอิตาเลียน ทว่าในปี 1940 เธอได้เสียชีวิตในวัยเพียง 46 ปี
Eva Hart
หนูน้อยวัย 7 ขวบพึ่งจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อแล่นเรือไททานิคไปกับครอบครัว
Eva Hart เป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของครอบครัวที่จมอยู่กับความทรงจำแสนเลวร้าย ก่อนที่จะเสียชีวิตในปี 1996 เมื่ออายุได้ 91 ปี หลงัจากรอดชีวิตและเติบโต Eva กลายเป็นผู้พิพากษาทั้งยังเคยให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
“พ่อแม่ปลุกเราแล้วไม่อธิบายอะไรเลย นอกจากให้ขึ้นไปรวมตัวกันข้างบน บางครั้งฉันก็สงสัย ถ้าวันนั้นเราไม่เชื่อฟัง จะได้มีโอกาสมาเล่าให้คุณฟังในวันนี้รึเปล่า”
พ่อของเธออุ้มเธอกับแม่ให้ลงเรือ นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้พบกับเขา พ่อของเธอเขียนจดหมายและใส่ไว้ในเสื้อคลุมเพื่อมอบให้กับแม่ ซึ่งเรื่องราวนี้ได้กลายเป็นตำนานที่น่าเศร้าและแสนซึ้งบนเรือไททานิค
Michel และ Edmond Navratil
ทั้งสองเป็นที่รู้จักในนาม “เด็กกำพร้าไททานิค” Michel อายุได้ 4 ขวบในขณะที่ Edmond อายุ 2 ขวบ ทั้งคู่ถูกแยกออกจากพ่อแม่แล้วถูกนำไปรวมกันพร้อมชื่อปลอมเพื่อออกเดินทางสู่อเมริกา
Edmond เสียชีวิตในปี 1953 ส่วน Michel มีชีวิตรอดและกลายเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของไททานิค เสียชีวิตในปี 2001 ขณะอายุได้ 92 ปี ที่ผ่านมาเขาทำงานเป็นศาสตราจารย์ปรัชญาในประเทศฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าชีวิตของตัวเองนั้นจบลงตั้งแต่ 4 ขวบ เวลานอกเหนือจากนั้นคือฝันร้ายที่ต้องรอให้มันจบสิ้นลง
Countess of Rothes
Lucy Noel Leslie รู้จักกันในฐานะ Countess of Rothes เธอเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ของเหตุการณ์นี้ หลังจากลงเรือชูชีพและได้รับการช่วยเหลือจากเรือลำอื่น เธอได้คอยดูแลปลอบใจคนอื่นๆ
Lucy กลับบ้านหลังเหตุการณ์นั้นและไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟัง จนกระทั่งเธอเสียชีวิตในปี 1956 ลูกหลานของเธอจึงได้พบกับจดหมายที่เขียนถึงเรื่องราวในวันนั้น นอกจากนี้ หลังเหตุการณ์แห่งฝันร้าย Lucy ยังได้ดำเนินกิจกรรมการกุศล ทั้งยังร่วมเป็นหนึ่งในนางพยาบาลสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย
เรื่องราวของผู้รอดชีวิตทั้ง 5 เรื่องราวนี้ ได้สะท้อนแง่มุมอันหลากหลายของผู้คนจากเหตุการณ์ที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องเลวร้ายที่ทำให้ชีวิตต้องพลิกผันเลยจริงๆ
ที่มา: RD.COM