โลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งสวยงามรอให้มนุษย์ค้นพบ สถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นทั้งจากฝีมือมนุษย์และธรรมชาติ กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ช่วยเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้คนมากมาย
น่าเสียดายที่ในหลายจุดหมายปลายทางอาจถูกคุกคามโดยการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพอากาศ และการปล่อยปละละเลยที่จะดูแลให้สวยงามเช่นเดิม
วันนี้ เราจึงอยากจะชวนคุณมาแพ็คของออกเดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้ ที่มีทั้งความงามชวนตะลึง และประสบการณ์อันล้ำค่า ก่อนที่พวกมันจะหายไปจากโลกใบนี้
1. มัลดีฟส์
ปีที่ผ่านมา จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature ได้ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เร่งอัตราการสูงขึ้นของระดับน้ำทะเล ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงที่เกาะทั้งหลายจะถูกน้ำท่วม และถูกปกคลุมไปด้วยปะการังจากมหาสมุทรอินเดีย
2. อุทยานแห่งชาติ Everglades
การพัฒนาเมือง อุตสาหกรรมและความกดดันทางการเกษตรได้ทำลายมากกว่าครึ่งหนึ่งของเขตอุทายานแห่งชาติ Everglades ที่สวยงามนี้ นอกจากนี้ มันยังติดอยู่ในรายชื่อ “มรดกโลกขององค์การยูเนสโกที่เสี่ยงต่ออันตราย” มาตั้งแต่ปี 2010
3. เวนิส
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และการเปลี่ยนแปลงของเปลือโลก ทำให้เมืองลอยน้ำแสนสวยแห่งนี้กำลังจบลงในอัตรา1 ถึง 2 มิลลิเมตรต่อปีตามการศึกษาของ Scripps Institution of Oceanography
4. แนวปะการัง Great Barrier Reef
แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดและน่าทึ่งที่สุดในโลกกำลังจะตายด้วยฝีมือของมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและมลภาวะ นำไปสู่ภาวะการเป็นกรด อีกทั้งอุณหภูมิของน้ำที่เพิ่มขึ้นยังทำให้เกิดการฟอกสีตามแนวปะการังใหญ่อีกด้วย
5. แอนตาร์กติกา
เมื่อปีที่ผ่านมา จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Nature ได้คาดการณ์ว่า ภาวะโลกาภิวัฒน์จะทำให้ปริมาณน้ำแข็งลดลงเกือบ 25% ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ซึ่งบริเวณที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเกิดขึ้นที่คาบสมุทรแอนตาร์กติก การเปลี่ยนแปลงนี้จะเปลี่ยนระบบนิเวศน์ที่บอบบางของทวีปแอนตาร์กติกาแทบทั้งหมด
6. กำแพงเมืองจีน
ตามที่นิตยสาร Smithsonian Magazine รายงาน กำแพงเมืองจีนมีสภาพที่สมบูรณ์ไม่ถึง 9% ของทั้งหมด ส่วนใหญ่ได้เสียหายไปจากการพังทลายและการกระทำของมนุษย์ ทั้งจากนักท่องเที่ยวที่ขโมยอิฐเพื่อนำกลับไปเป็นที่ระลึก หรือศิลปินที่เข้ามาพ่นสี แม้ว่าปัจจุบันจะมีการบูรณะกำแพงขึ้นโดยใช้งบของรัฐบาล ทว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป สักวันหนึ่งมันอาจไม่เหลืออยู่แล้วก็เป็นได้
7. เวียนนา
เมื่อปีที่แล้ว ยูเนสโกได้เพิ่มเมืองแห่งศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่สวยงามนี้ เข้าสู่รายชื่อมรดกโลกที่เสี่ยงอันตราย เนื่องจากมีโครงการระดับสูงซึ่งจะเปลี่ยนเส้นขอบฟ้าของเมืองไปตลอดกาล
8. มาดากัสการ์
พื้นที่ป่าแสนสวยแห่งนี้ได้ถูกทำลายโดยการตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงภัยคุกคามจากมนุษย์ที่เข้าไปล่าสัตว์ป่าบนเกาะ การศึกษาในปี 2017 พบว่าป่าที่เหลืออยู่ของมาดากัสการ์กำลังถูกทำลายในอัตราประมาณร้อยละหนึ่งต่อปี
9. Patagonia
เช่นเดียวกับในแอนตาร์กติกา ช่องน้ำแข็ง Patagonian ในเทือกเขาแอนดีสตอนใต้ ที่ทอดตัวจากอาร์เจนตินาและชิลีกำลังหดตัวในอัตราที่รวดเร็วอย่างน่าตกใจ เนื่องจากภาวะโลกร้อน
ในการศึกษาในปี 2015 นักวิทยาศาสตร์จาก UC Irvine พบว่าธารน้ำแข็งของ Patagonia กำลังถอยห่างออกไปถึง 6.4 ไมล์ต่อปี
10. แคริบเบียน
รายงานขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี 2011 ได้คาดการณ์ถึงผลกระทบที่ร้ายแรงต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลในหมู่เกาะแคริบเบียนภายในสิ้นศตวรรษนี้
พวกเขาคาดว่า จะมีสถานที่กว่า 300 แห่งถูกทำลายไปพร้อมกับสนามบิน โรงไฟฟ้า ถนนและที่ดินการเกษตร
11. อุทยานแห่งชาติ Glacier National Park
รายงานจากผลการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯพบว่าในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาภาวะโลกร้อนทำให้เกิดการลดลงของธารน้ำแข็งถึง 26 แห่งในอุทยาน นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าจะไม่มีน้ำแข็งเหลือ ภายในปลายศตวรรษนี้
12. ทะเลสาบเดดซี
ตามที่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีโคเฟียตะวันออกกลางกล่าว ทะเลสาบเดดซีได้สูญเสียพื้นที่ 3 แห่ง และยังคงหดตัวประมาณ 3.3 ฟุตต่อปี นั่นทำให้ทะเลสาบอันงดงามนี้อาจหายไปในอนาคต
นี่อาจเป็นการจุดประกายให้ผู้ที่กำลังลังเลให้เกิดแรงบันดาลใจในการออกไปท่องโลก ก่อนที่สถานที่ในฝันจะหายไป :)
ที่มา: rd.com