การเดินทางด้วยรถไฟอาจเป็นตัวเลือกที่นักเดินทางสายสะดวกสบายไม่ค่อยเลือกใช้นัก อาจเพราะภาพลักษณ์ที่ต้อผจญกับผู้คนเยอะๆ และการเดินทางที่ล่าช้า รวมถึงใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าการเดินทางแบบอื่นๆ
แต่ 11 รถไฟที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ กับสุดยอดความหรูหราบนรถรางเหล็กทั่วโลก!!
1. Venice Simplon-Orient-Express : เส้นทาง London – Venice
ไม่มีรถไฟสายไหนจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกโรแมนติกและเต็มไปด้วยการผจญภัยได้เหมือนรถไฟขบวนนี้ ชื่อ Orient-Express อาจจะฟังดูคุ้นๆ หู นั่นก็เพราะมันเป็นหนึ่งในฉากของนิยายชื่อดังของราชินีนิยายสืบสวน Agatha Christie เรื่อง “Murder on the Orient Express”นั่นเอง
ทิวทัศน์ระหว่างการเดินทางจะทำให้คุณได้พบกับเมืองแสนสวยในยุโรประหว่างการนั่งอยู่ในโบกี้ที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัย
นอกจากนี้ บนรถไฟขบวนนี้ยังเต็มไปด้วยกุ้งก้ามกรามสดๆ ที่จะเสิร์ฟระหว่างอาหารเช้าแสนอร่อยก่อนที่ขบวนจะมาถึงท่าเรือ Calais ของฝรั่งเศสซึ่งมีเฉพาะทางตะวันตกเท่านั้น
ราคาเริ่มต้นที่ 3,342 เหรียญต่อคน (ประมาณ 109,000 บาท)
2. Golden Eagle : เส้นทาง Moscow – Vladivostok
Golden Eagle เป็นห้องพักสุดหรูของรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียซึ่งมีบริการอันหรูหราตั้งแต่ห้องน้ำในตัว เครื่องปรับอากาศในฤดูร้อน เครื่องทำความร้อนในฤดูหนาว บริการซักรีด ทีวี นักเปียโน และหมอที่พูดภาษาอังกฤษ
ในช่วงวันหยุดพักผ่อนตลอดการเดินทาง 2 สัปดาห์ คุณจะรู้สึกเหมือนกำลังล่องเรือมากกว่านั่งรถไฟ
ทิวทัศน์สองข้างทางจะเเล่นไปตามริมทะเลสาบไบคาลโดยรถจักรไอน้ำยุคโซเวียตและอ้อมไปยังอูลานบาตอร์ทุนของมองโกเลีย
ราคาเริ่มต้นที่ (Silver Class) 15,895 เหรียญต่อคน (ประมาณ 518,900 บาท)
3. Blue Train : เส้นทาง Pretoria – Cape Town
นี่เป็นการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง 27 ชั่วโมงในระยะทาง 1,600 กิโลเมตรข้ามทวีปแอฟริกาไปหยุดที่เหมืองเพชรของคิมเบอร์เลย์ทางทิศใต้และที่ด่านหน้าอาณานิคมนอกรีตของ Matjiesfontein ทางตอนเหนือ
ห้องสวีทสุดหรูบางห้องมีอ่างอาบน้ำที่จะทำให้คุณผ่อนคลายราวกับได้แช่แอ่งฟองสบู่นุ่มๆ ลอยฟูฟ่องพร้อมแก้วแชมเปญในมือ ขณะมองทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าสะวันนา
เพื่อฉลองครบรอบ 70 ปีในปี 2016 นี้ ทางรถไฟฟ้ากำลังเสนอการเดินทางแสนพิเศษจาก Pretoria ไปยัง Hoedspruit ในพื้นที่ Kruger Park
ราคาเริ่มต้นที่ 976 เหรียญต่อคน (ประมาณ 31,800 บาท)
4. The Ghan : เส้นทาง Adelaide – Darwin
รถไฟขบวนนี้เป็นการทัวร์ 3 คืนซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางข้ามประเทศออสเตรเลียไปด้วยความเพลิดเพลินกับความหรูหราและทิวทัศน์สวยงามที่ไม่มีสิ้นสุด
ในห้องแบบแพลทินัมมีพื้นที่ห้องพักพร้อมห้องน้ำส่วนตัว และรูมเซอร์วิส ซึ่งเมนูของที่นี่จะเน้นอาหารท้องถิ่นที่แปลกใหม่ของออสเตรเลียเช่นปลา barramundi น้ำเค็มและเนื้อจิงโจ้ย่าง
นอกจากนี้ยังมีการหยุดพักพิเศษเพื่อให้ผู้โดยสารได้มีโอกาสในชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้นใน Marla หรือชมทางช้างเผือกใน Manguri
ราคาเริ่มต้นที่ 2,637 เหรียญต่อคน (ประมาณ 86,000บาท)
5. Rovos Rail : เส้นทาง Southern – eastern Africa
Rovos Rail เป็นรถไฟที่ช้าและให้ความรู้สึกสบายๆ มากกว่ารถไฟสาย Blue Train ซึ่งมีเครือข่ายกว้างขวางสำหรับจุดหมายปลายทางที่ห่างไกลในแอฟริกาใต้ ซิมบับเว นามิเบีย และแทนซาเนีย
ด้วยห้องโดยสารื่หรูหราซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเดินทางที่ยาวนานและมีสถานที่ค้างคืนหลายแห่ง
เนื่องจากรถไฟไม่สามารถขับด้วยความเร็วที่เกินกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ผู้โดยสารสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์หรือถ่ายภาพทิวทัศน์ได้
รวมระยะเวลา 4 วันในแพคเกจ Pullman มีค่าใช้จ่าย 1,504 เหรียญต่อคน (ประมาณ 49,100 บาท)
6. The Rocky Mountaineer : เส้นทาง Banff – Vancouver
บริการ Gold Leaf ของ Rocky Mountaineer เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางระดับห้าดาวในอเมริกาเหนือ อาจมีหลายเส้นทางที่จะพาคุณไปยังเทือกเขาร็อกกี้ แต่ไม่มีเสน้ทางไหนจะคลาสสิคไปกว่าการนั่งรถไฟขบวนนี้
แม้ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมเดินทางในช่วงฤดูร้อนประมาณเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม แต่ก็มีผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบความโรแมนติกของฤดูใบไม้ร่วงยามที่ภูเขาถูกย้อมไปด้วยสีส้ม เหลือง แดง และมีหิมะประดับอยู่บนยอด
หากต้องการเพิ่มความโรแมนติก คู่รักที่เดินทางด้วยกันสามารถหมุนที่นั่งเพื่อจ้อมองทิวทัศน์ได้ตลอดการเดินทาง
ราคาเริ่มต้นที่ 1,309 เหรียญต่อคน (ประมาณ 42,700บาท)
7. Belmond Royal Scotsman : เส้นทาง Scottish Highlands
การเดินทางบน Belmond Royal Scotsman เป็นวิธีชมทิวทัศน์ของชนบทอันงดงามของสก๊อตแลนด์ในบรรยากาศของ Downton Abbey ที่ไม่ซ้ำใคร
ผู้โดยสารสามารถเลือกเที่ยวรอบเมืองจาก Edinburgh ได้ในระยะเวลา 2 – 7 วัน หรือจะเลือกเดินทางแบบคลาสสิคด้ววยระยะเวลา 4 คืนเพื่อไปยังที่ราบสูงสกอตติช เยี่ยมโรงกลั่นและเที่ยวชมสถานที่ในปราสาทต่างๆ
รถไฟที่หรูหราที่สุดของสหราชอาณาจักรคันนี้มีบาร์วิสกี้กว่า 50 ชนิด และฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะเดินทางไปชมทุ่งหญ้าสีม่วงของป่าสก๊อตแลนด์
ราคาเริ่มต้นที่ 3,917 เหรียญต่อคน/ 2 คืน (ประมาณ 127,900 บาท)
8. The Canadian : เส้นทาง Toronto -Vancouver
การเดินทางในแคนาดาของ VIA Rail ใช้เวลาเดินทางสี่วันตลอดระยะทาง 4,466 กิโลเมตรที่เชื่อมเมืองที่น่าตื่นเต้นที่สุด 2 แห่งอย่าง Toronto และ Vancouver เข้าไว้ด้วยกัน
สำหรับปีนี้ ได้มีการเพิ่มเตียงนอนแบบ Deluxe และอาหารรสเลิศในที่นั่งชั้นปกติ และในชั้น Prestige ก็มีการเพิ่มห้องพักสุดหรูหราเข้ามาอีก 13 ห้อง แต่ละห้องมีห้องอาบน้ำพร้อมฝักบัว ห้องน้ำและมินิบาร์พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ในราคาตั๋ว นอกจากนี้ยังมีทีวีในห้องพักให้คุณได้เพลิดเพลินขณะเดินทางอีกด้วย
ราคาเริ่มต้นที่ 2,891 เหรียญต่อคน (ประมาณ 94,300 บาท)
9.Maharajas’ Express : เส้นทาง Delhi – Mumbai
มักเรียกกันว่า “Orient Express of the Orient”
Maharajas Express เป็นหนึ่งในบริษัทหน้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาดรถไฟที่หรูหรา การตกแต่งภายในพยายามที่จะให้เหมือนกันการเดินทางของราชวงศ์
เมื่อคุณโดยสารรถไฟของ Maharajas ที่เต็มไปด้วยความโอ่อ่าและสวยงามนี้ คุณจะได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณและศิลปะแบบดั้งเดิมของอินเดีย รวมถึงโอกาสที่จะได้สนทนากับครอบครัวของราชวงศ์ในอดีต
ตลอดระยะเวลา 3 คืนให้การเดินทางคุณจะได้พบกับประสบการที่สนุกสนาน ควรระวังค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ไม่ได้รวมอยู่ในค่าโดยสารเช่นค่ากล้องถ่ายรูปและวิดีโอ หรือค่าบริการรับฝากสัมภาระ
ราคาเริ่มต้นที่ 3,850 เหรียญต่อคน (ประมาณ 125,700บาท)
10. The Transcantabrico Gran Lujo: เส้นทาง San Sebastian – Santiago de Compostela
คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์โรงแรมระดับห้าดาวบนรางเหล็กพร้อมด้วยอาหารชั้นยอดที่เสิร์ฟให้อย่างหรูหราพร้อมไน์ชั้นดีที่มีให้ตลอดการเดินทาง
นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งสไตล์สเปนที่สวยงาม รวมถึงการแวะพักที่พิพิธภัณฑ์ Guggenheim ใน Bilbao ถ้ำก่อนประวัติศาสตร์ของ Altamira อุทยานแห่งชาติ Picos de Europa และวิหาร Santiago de Compostela ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง
ราคาเริ่มต้นที่ 4,859 เหรียญต่อคน (ประมาณ 158,600 บาท)
11. Seven Stars : เส้นทาง Kyushu ประเทศญี่ปุ่น
“Seven Stars in Kyushu” เป็นรถไฟที่หรูหราที่สุดในญี่ปุ่น มีเพียง 7 คันและสามารถรองรับได้เพียง 30 คนใน 14 ห้อง
การตกแต่งภายในแสดงให้เห็นถึงสุดยอดศิลปะ เช่นกำแพงที่ทำมาจากไม้ชิงชันและเมเปิ้ล พื้นไม้วอลนัท หน้าต่างที่กรุด้วยกระดาษโชจิและประตูกระจกบานเลื่อนที่สลักเป็นรูปดอกไม้และนก
มีเส้นทางสองเส้นทางให้เลือก คือเส้นทางรอบฟุกุโอกะ(ระยะเวลา 2 วัน) หรือเส้นทางสู่เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น(ระยะเวลา 4 วัน)
เนื่องจากเป็นที่นิยมมาก ดังนั้น บริษัทจึงเลือกใช้งานโดยการจับสลาก ราคาของตั๋วโดยสารนั้นรวมที่พักพร้อมอาหารและเครื่องดื่มแล้ว
ราคาเริ่มต้นที่ 2,271 เหรียญต่อคน (ประมาณ 74,000 บาท)
นี่อาจเป็นหนึ่งในวิธีการแบบใหม่ที่คุณยังไม่เคยได้ลองสัมผัสและจะเปิดโลกของคุณให้กว้างขึ้นผ่านเสียงฉึกฉักที่ก้องกังวาน
ที่มา : edition.cnn.com