บทความนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ “5 เด็กอัจริยะแห่งยุคนี้” กัน ในห้าคนนี้บ้างก็เกิดมาในครอบครัวที่ลำบาก บ้างก็มีสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์พร้อม แต่ด้วยความอัจริยะของพวกเขา ทำให้ได้รับการยอมรับได้ครับ
1. Gregory R. Smith อัจฉริยะเด็กของโลก ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพถึง 4 ครั้ง
Gregory R. Smith เกิด ในปี 1990 ปัจจุบันอายุ 24 ปี แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้ตั้งแต่อายุ 14 เดือน อ่านหนังสือออกตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 10 ขวบ นอกจากนี้เขายังเป็นมังสวิรัตตั้งแต่ยังเป็นเด็กอีกด้วยครับ
ความเป็นอัจฉริยะของเขาปรากฎเมื่อเขาตัดสินใจออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อ รณรงค์เรื่องสันติภาพและสิทธิเด็ก เขาได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เมื่ออายุได้เพียง 12 ปีเท่านั้นครับ
Gregory Smith เป็นผู้ก่อตั้ง International Youth Advocates ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนหลักการแห่งสันติภาพและความเข้าอกเข้าใจในระหว่างเยาวชนทั่วโลก
ประวัติชีวิตของ Gregory Smith อย่างคร่าวๆ จนถึงอายุ 13
14 เดือน: แก้ปัญหาคณิตศาสตร์
2 ขวบ: อ่านหนังสือได้ แก้ไวยากรณ์ที่ผิดของผู้ใหญ่ได้ / ตัดสินใจเป็นมังสวิรัต
5 ขวบ: อธิบายเรื่องการสังเคราะห์แสงในเพื่อนร่วมชั้นอนุบาลฟัง
6-9 ขวบ: เรียนจบ 10 เกรด โดยใช้เวลาแค่ 3 ปี
9 ขวบ: จบมัธยมปลายด้วยเกียรตินิยม
10 ขวบ: เป็นนักศึกษาปีที่ 1 / ก่อตั้ง International Youth Advocates
12 ขวบ: ได้รับการเสนอชื่อรางวัลโนเบล ครั้งแรก
13 ขวบ: ได้รับการเสนอชื่อรางวัลโนเบล ครั้งที่ 2 / จบการศึกษาด้วยเกียรตินิยม เอกวิชาคณิตศาสตร์ และวิชาโทประวัติศาสตร์และชีววิทยา
นอกจากนี้ยังเคยได้เข้าพบกับผู้นำคนสำคัญอย่าง Bill Clinton และ Mikhail Gorbachev และยังเคยปฐกถาต่อหน้าที่ประชุม UN จากการ ทำงานด้านมนุษยธรรม ทำให้เขาถูกเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพถึง 4 ครั้งเลยละครับ
2. จังเจ๋อ เด็กจีนอัจฉริยะ… บ้านไม่มีเงินส่งเรียน แต่สอบติดมหาลัยอายุ 13 ปี
เด็กชายจังเจ๋อ ที่เคยตกเป็นข่าวฮิตในประเทศจีน เมื่อสามารถสอบผ่านเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ด้วยวัยเพียง 13 ปีเท่านั้น จนหลายคนให้ชื่อว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ ที่พยายามเรียนด้วยตนเองจนสอบได้
จังเจ๋อฉายแววตั้งแต่เด็ก เมื่อเรียนประถมตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และก็สอบข้ามจาก ป.1 ไป ป.3 จากนั้นพอจบ ป.4 ก็สอบเทียบระดับชั้นมัธยมได้ จนกระทั่งเรียนจบมัธยมต้นก็ไม่มีเงินเรียนต่อ ครอบครัวต้องให้ออกจากโรงเรียน
แต่จังเจ๋อก็ยังไม่ย่อท้อ ตั้งใจอ่านหนังสือและสอบเทียบวุฒิ ม.ปลาย ได้เมื่ออายุ 11 ขวบ แต่ก็ล้มเหลวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยถึง 2 ครั้ง ก่อนจะมาสำเร็จในปีล่าสุด ซึ่งสามารถสอบเข้าเรียนสาขาบริหารธุรกิจได้
เนื่องจากฐานครอบครัวยากจน พ่อแม่แยกทางกันแล้วเขาต้องอยู่กับพ่อเพียงลำพัง จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นเด็กที่ไม่ย่อท้อ ไม่ทำตัวเกเรและรักดี ใฝ่เรียนรู้จนสามารถสอบเรียนต่อได้เองแม้ไม่ได้อยู่ในโรงเรียน
เมื่อนักข่าวไปสัมภาษณ์ จังเจ๋อก็พูดคุยสนุกสนาน ร่าเริงเหมือนเด็กๆทั่วไป นอกจากการอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนแล้ว ในเวลาว่างเขาก็ชอบเล่นเกม อินเตอร์เน็ต และออกไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆวัยเดียวกันด้วย….
3. Emmanuel Bishop เด็กดาวน์ซินโดรมอัจฉริยะ เล่นไวโอลิน และพูดได้ถึง 4 ภาษา
Emmanuel ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมตั้งแต่เด็ก แต่พ่อแม่ของเขาก็เข้าใจ และพยายามเลี้ยงดูอย่างดี โดยยึดแนวคิดที่ว่าจะดูว่าลูกชอบในสิ่งใด และก็จะส่งเสริมในสิ่งนั้น เพราะเชื่อว่าเด็กพิเศษล้วนมีพรสวรรค์ ซึ่งก็เป็นจริงซะด้วย
– Emmanuel ไม่ได้ไปโรงเรียน แต่พ่อแม่สอนหนังสือให้ที่บ้าน โดยทางบ้านพูดได้ทั้งอังกฤษ และสเปน รวมทั้งมีการให้ติวเตอร์มาสอนภาษาฝรั่งเศส และภาษาละติน
– พออายุ 2 ขวบ เขาก็สามารถอ่านหนังสือออกได้
– อายุ 6 ขวบ สามารถกล่าวสุนทรพจน์ 3 ภาษา ต่อหน้าผู้เข้าสัมมนา St. Louis NDSS Annual Conference Plenary Session จำนวน 600 คน
– พร้อมกันนี้ก็ได้หัดเล่นไวโอลินตอนอายุ 6 ขวบ
– อายุ 8 ขวบ สามารถขี่จักรยานได้
– อายุ 10 ขวบ ได้รับรางวัลโอลิมปิดเด็กพิเศษ ในการแข่งกอล์ฟ และว่ายน้ำ
– อายุ 12 ขวบ สามารถเล่นไวโอลินต่อผู้ฟัง 900 คนที่เข้าร่วมการประชุมดาว์ซินโดรมโลกครั้งที่ 10 ที่ประเทศไอร์แลนด์
– คว้ารางวัลนักว่ายน้ำดาวน์ซินโดรมอันดับ 6 ของโลก เมื่ออายุ 13 ขวบ
เห็นอย่างนี้ต้องยอมรับเลยว่าน่าทึ่ง และเป็นความสามารถพิเศษจริงๆ แถมบางอย่างอาจจะเหนือว่าคนทั่วไปซะอีกครับ
4. Sho Yano เด็กหนุ่มอัจฉริยะ นายแพทย์อายุน้อยที่สุดแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก้
Sho Yano เด็กหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นนายแพทย์ที่อายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ University of Chicago ด้วยวัยเพียง 21 ปีเท่านั้น เขาเกิดในรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา
ในวัยเด็กมีความสามารถในการเล่นเปียโนตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จนสามารถแต่งทำนองเพลงได้เอง และเล่นบทเพลงของโชแปงได้อย่างเชี่ยวชาญ
พออายุ 8 ขวบ เขาสามารถสอบ SAT ได้คะแนน 1,500 จากคะแนนเต็ม 1,600 ทำให้มีสิทธิ์เข้าเรียนมหาวิทยาลัย Loyola University ในรัฐชิคาโก้ หลังจากนั้นเขาเข้าเรียน จนจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมในเวลาเพียง 3 ปี
หลังจากนั้นเขาเข้าเรียนต่อในโรงเรียนแพทย์ University of Chicago และจบการศึกษาออกมาเป็นนายแพทย์ได้สำเร็จ…. ความสามารถล้นเหลือขนาดนี้ คงต้องใช้คำว่าอัจฉริยะแล้วล่ะ
5. Michael Kearny เด็กชายอัจฉริยะ พูดได้ตั้งแต่ 4 เดือน จบปริญญาตรีตอน 10 ขวบ
Michael Kearny ได้รับการบันทึกว่าเป็นเด็กอายน้อยที่สุดที่สามารถเรียนจบมหาวิทยาลัย และได้รับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยเขาสามารถคว้ามันได้ในวัยเพียง 10 ขวบเท่านั้น เรามาทำความรู้จักความน่าทึ่งของเขากัน….
– เขาเกิดวันที่ 18 มกราคม 1984 ในรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา
– เขาสามารถพูดคำแรกได้ตอนอายุ 4 เดือน และสามารถอ่านหนังสือได้ตอน 10 เดือนเท่านั้น
– สามารถทำผลคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยมในการทดสอบคณิตศาสตร์ของ Johns Hopkins โดยไม่ต้องติวพิเศษ
– เขาไม่ได้เข้าโรงเรียนปกติ และได้รับการเรียนการสอนอยู่บ้าน จากแม่ลูกครึ่งชาวอเมริกัน เชื้อชาติญี่ปุ่น
– จบการศึกษาระดับมัธยมปลายจาก San Marin High School เมื่ออายุ 6 ขวบ
– เข้าเรียนระดับวิทยาลัยที่ Santa Rosa Junior College และได้รับวุฒิ Associate of Science in Geology ในวัยเพียง 8 ขวบ
– จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านมานุษยวิทยา จาก University of South Alabama ในวัย 10 ขวบเท่านั้น และได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊ค
ดูจากประวัติของแต่ละคนแล้ว ก็ต้องบอกอย่างเหลือเชื่อว่า พวกเขามีความพิเศษมาตั้งแต่เด็กๆ (และนับว่าเป็นพรสวรรค์ที่เราหลายคนก็คงฝึกฝนกันไม่ได้ด้วย) แต่เหนือสิ่งอื่นใด หากเราตั้งใจเรียน ก็สามารถจบและประสบความสำเร็จได้เช่นกันนะ…..