สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ชื่นชอบการผ้าทายประสบการณ์หลอน บทความนี้ผมขอนำเสนอ แนะนำ “10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดหลอน” จากทั่วทุกมุมโลก!! เผื่อว่าเพื่อนๆคนไหนมีโอกาส ก็อย่าลืมลองแวะไปเที่ยวกันดูนะครับ รับรองว่าจะจดจำมิรู้ลืมเลยหล่ะ
1. SALEM, MASSACHUSETTS, USA
ที่เมืองซาเล็ม เป็นเมืองที่โด่งดังขึ้นมาจากเรื่องราวของ “การสอบสวนแม่มดแห่งซาเล็ม” ในช่วงปี 1692 ปัจจุบันเมืองซาเล็มก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของการล่าแม่มด รวมถึงมีงานเทศกาล ทัวร์ชมจุดประหารแม่มดอีกด้วย
2. Bran CASTLE, ROMANIA
เป็นปราสาทที่เจ้าชาย “Vlad III Dracul” เคยครอบครองเพื่อใช้ต่อสู้กับกองทัพชาวเติร์ก และเมื่อจับเชลยได้ก็จะนำมาเสียบประจานอย่างน่าสยดสยอง เป็นการข่มขวัญคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี ด้วยความไม่ปราณีต่อศัตรูนี้เองคงไปดลใจให้นักเขียนนวนิยายนาม “Bram Stoker” จับไปเป็นไอเดียของผีดูดเลือดแดร็กคูล่าในที่สุด
3. PARIS, FRANCE
สุสานขนาดใหญ่ของปารีสที่มีขนาดกว่า 100 เอเคอร์ และ Catacombs of Paris สุสานใต้ดินของปารีสที่บรรจุโครงกระดูกกว่าล้านชีวิตเรียงรายในอุโมงค์มืดมิด ผู้ที่ลงไปต่างพูดป็นเสียงเดียวกันว่าบรรยากาศข้างใต้นั้นเหมือนหลุดไปยังอีกโลกหนึ่ง โลกที่คนเป็นไม่ควรก้าวเข้าไป
4. NEW ORLEANS, USA
นิวออร์ลีนส์ หนึ่งในเมืองผีดุที่มตำนานเล่าขานเรื่องของลัทธิวูดูที่นับถือกันอย่างแพร่หลายในอดีต สถานที่ที่โด่งดังมากที่สุดคือ “Manchac Swamp” หนองน้ำอาถรรพ์ที่บรรยากาศชวนขนหัวลุกปกคลุมด้วยต้นไม้ดึกดำบรรพ์นานาพันธุ์ และยังอุดมด้วยตำนานของผีดิบดูดเลือด และแม่มดวูดู นักท่องเที่ยวหลายคนเคยพบเห็นศพนิรนามลอยขึ้นมาจากหนองน้ำอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงเสียงเพลงของแม่มดที่ลอยมาตามลมด้วย
5. OAXACA, MEXICO
“Dia de los Muertos” (Day of the Dead) งานเทศกาลรำลึกถึงคนตายที่ถือกันมาตามตำนานของชาวแอซเท็ค และชนเผ่ามายัน ซึ่งเชื่อดวงว่าวิญญาณในปรโลกจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาเยี่ยมเยียนญาติสนิทมิตรสหายเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองไว้รอต้อนรับ ทั้งการจัดแต่งหลุมฝังศพอย่างสวยงาม ประดับเชิงเทียนให้สว่างไสวเพื่อเชื้อเชิญดวงวิญญาณให้กลับบ้าน
6. ROSE HALL GREAT HOUSE, JAMAICA
บ้านสุดเฮี้ยนที่มีชื่อเสียงของจาไมก้า กับเรื่องราวของ Annie Palmer เจ้าของบ้านที่เล่นไสยศาสตร์มนต์ดำที่ชอบจับทาสมาทรมานแล้วฆ่าอย่างเลือดเย็น ภายในบ้านยังมีคุกใต้ดินที่มีคนได้ยินเสียงร้องโหยหวนอยู่เป็นระยะ แล้วหากคุณโชคดีพอก็อาจได้เจอกับนาง Annie Palmer ที่ยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ ก็เป็นได้
7. SLEEPY HOLLOW, NEW YORK, USA
ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของตำนานชายขี่ม้าหัวขาดแห่ง SLEEPY HOLLOW เรื่องสั้นที่แต่งโดย Washington Irving ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องผีที่ถูกแต่งขึ้นแต่ด้วยบรรยากาศของหมู่บ้านที่ชวนหลอนดั่งในเรื่องสั้นบรรยายไว้ ก็ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมขึ้นมา
8. Sedlec Ossuary, Kutna Hora, Czech Republic
โบสถ์ที่ตั้งอยู่กลางสุสานในหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ Sedlec ชานเมือง Kutna Hora ประดับประดาด้วยโครงกระดูกมนุษย์กว่า 70,000 คน ผู้คนเชื่อว่าสุสานนี้เป็นสุสานศักดิ์สิทธิ์ จึงต้องการให้ตัวเองหรือญาติพี่น้องมาอยู่ที่สุสานแห่งนี้เพราะจะทำให้ใกล้ชิดกับพระเจ้า และเป็นหนทางที่จะทำให้ได้ขึ้นสวรรค์
9. Bell Witch Cave, Tennessee, USA
สถานที่ที่เชื่อกันว่าวิญญาณของแม่มดเบลล์ยังคงวนเวียนอยู่ ปัจจุบันที่นี่ถูกเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้เข้าชมได้ในช่วงเดือนตุลาคม นักท่องเที่ยวที่เข้าไปชมภายในถ้ำล้วนได้รับรู้ถึงสิ่งผิดปรกติบางอย่างเหมือนๆ กัน เช่นความรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกจ้องมองตลอดเวลา เสียงประหลาดที่ลอยออกมาจากส่วนลึกของถ้ำ สุดท้ายคือข้อห้ามของการเที่ยวถ้ำนี้คือ “ห้ามหยิบสิ่งใดติดมือออกไปแม้แต่ชิ้นเดียว แม้ว่าจะเป็นเพียงก้อนหินก็ตาม”
10. ESTES PARK, COLORADO, USA
“Stanley Hotel” โรงแรมดังที่ขึ้นชื่อเรื่องผีชุม และคนส่วนใหญ่ก็ยินดีเสียเงินมาเข้าพักเพื่อจะได้เจอผีอีกต่างหาก วันดีคืนดีขณะที่แขกกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่ล็อบบี้ก็มักจะพบกับเจ้าของโรงแรม (ที่ตายไปนานแล้ว) นาย F.O. Stanley ด้วย ส่วนคุณนาย Flora Stanley ก็มักจะแอบมาเล่นเปียโนที่ห้องดนตรีอยู่บ่อยๆ เสียงเด็กเล่นเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวจากห้อง 418 (ทั้งที่วันนั้นไม่มีเด็กเข้าพัก) และอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง
ข้อมูลจาก: Truelife Travel