หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับรูปแบบการเรียนการสอนแบบเดิมๆ ที่เรียนหนังสือในโรงเรียน และไปทำการบ้านที่บ้าน แต่ถ้าลองกลับกันล่ะ..!? เราจะพาไปรู้จักการสอนแบบ Flipped Classroom หรือเรียนที่บ้าน มาทำการบ้านที่โรงเรียนกันดูบ้าง
ที่จริงแล้ว Flipped Classroom ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะมีใช้ในสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ปี 2007 ก่อนที่จะเริ่มแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ จนมีใช้ในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา จนกระทั่งระดับมหาวิทยาลัยบางแห่งก็นิยมใช้กัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในปี 2010 โรงเรียน Clintondale High School นำระบบนี้มาใช้เนื่องจากกว่าครึ่งของนักเรียนเกรด 9 มีผลการเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษย่ำแย่มาก เลยเริ่มให้ครูบันทึกสื่อการสอนเป็นวิดีโอ และสื่อต่างๆให้เด็กกลับไปศึกษาเองที่บ้าน
หลังจากนั้นเมื่อเด็กมาโรงเรียน ก็จะมานั่งทำแบบฝึกหัดและการบ้าน โดยที่ตรงไหนไม่เข้าใจก็จะให้ครูเป็นผู้ชี้แนะ ซึ่งดีตรงที่เด็กสามารถเลือกเวลาเรียนได้เองยามว่าง และพอทำการบ้านไม่เข้าใจก็สามารถถามครูที่โรงเรียนได้ทันที
ผลปรากฏว่าหลังจากนั้นนักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ขณะที่ครูก็กระตือรือร้นที่จะพัฒนาแนวทางการเรียนการสอน เพื่อสร้างสรรค์สื่อที่น่าสนใจ ขณะที่นักเรียนก็ยังสามารถเปิดดูสื่อนั้นซ้ำๆหลายรอบได้ถ้าไม่เข้าใจ และไม่ต้องกังวลว่าจะเรียนไม่ทันด้วย
ภายหลังหน่วยงานต่างๆเริ่มนำมาปรับใช้ และสนับสนุนมากยิ่งขึ้น… ซึ่งก็ไม่แน่เหมือนกันว่าเมืองไทยเราอาจจะนำมาใช้บ้างในอนาคต แต่ก็ต้องรอดูกันว่าเมื่อไร และจะได้ผลมีประสิทธิภาพแค่ไหน….?
ที่มา: nextsteptv
