ด้วยความแตกต่างของความเชื่อ ศาสนา และสภาพแวดล้อม รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ที่มีความแตกต่างกัน ทำให้พยาบาลในแต่ละภูมิภาคมีข้อจำกัด และข้อปฏิบัติที่ต่างกันตามไปด้วย
วันนี้เราจึงมีเรื่องราวน่าสนใจมาฝากเพื่อนๆ นั่นก็คือเรื่องราวความจริงในวงการพยาบาลของหลากหลายประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นจีน เวียดนาม เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้บางข้อ คุณอาจจะไม่เคยเรียนมาจากในห้องเรียนเลยก็เป็นได้
1. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพพยาบาลญี่ปุ่นไม่มีวันหมดอายุ
2. พยาบาลชาวญี่ปุ่นทุก 1 ใน 23 คน มักจะทำงานมากกว่า 60 ชม./เดือน ซึ่งถือเป็นการทำงานเกินเวลา
3. ในโรงพยาบาลหลายพื้นที่ของประเทศจีนนั้น คนไข้ต้องมาต่อคิวเพื่อรับการรักษาตั้งแต่ตี 3 และคนไข้จำนวนมากมักเบียดเสียดกันอยู่เป็นประจำ
4. พยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาลจีนที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จำเป็นต้องนำเครื่องมือกลับมาใช้ใหม่ เช่น พวกถุงมือ หรือกระบอกฉีดยา
5. นักศึกษาพยาบาลในเวียดนามไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับอาจารย์ พวกเขามีหน้าที่เรียนจากการจดบันทึก และศึกษาจากหนังสือ โดยจะได้ปฏิบัติจริงก็ต่อเมื่อจบการศึกษาแล้วเท่านั้น
6. พยาบาลในประเทศเม็กซิโกจะใช้ถุงมือเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น
7. หลังจากทำงานมาประมาณ 1 ปี พยาบาลในเม็กซิโกสามารถเลือกเป็นพยาบาลเฉพาะด้านได้
8. พยาบาลที่ปฏิบัติงานในประเทศออสเตรเลียทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสุขภาพ รวมทั้งเอกซเรย์ทรวงอกก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ทำงาน
9. มีตัวเลขยืนยันว่าแพทย์ในฟิลิปินส์มักจะกลับไปเรียนเพื่อเป็นพยาบาล และย้ายไปทำงานที่สหรัฐฯ เพื่อรายได้ที่มากกว่าการเป็นหมอในประเทศ
10. พยาบาลในซาอุดิอาระเบียจะไม่ได้รับอนุญาตให้ประเมินอาการ และจ่ายยาแก่คนไข้ที่เป็นเชื้อพระวงศ์ เพราะพวกเขาจะคัดเลือกพยาบาลส่วนตัว 20 คน ในการดูแลเมื่อเจ็บป่วย
11. พยาบาลในซาอุดิอารเบียจะเข้าเวร 8 ชม. แต่ไม่เกิน 12 ชม.ในช่วง 4 ชม.ที่เหลือนั้นผู้ป่วยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของญาติ
12. พยาบาลชาวอิรักนั้นจะต้องกลับถึงบ้านไม่เกินบ่าย 2 และจะไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องผู้ป่วยชายที่ไม่ใช่สามี หรือลูก
13. ในประเทศแทนซาเนียจะมีพยาบาล รวมทั้งนางพยาบาลผดุงครรภ์เพียง 4 คน ใน 10,000 คน
14. จากการศึกษาในสหรัฐฯ พบว่า พยาบาลห้องฉุกเฉินกว่า 80% เชื่อว่าข้างขึ้น-ข้างแรมมีผลกับอุบัติเหตุของคนไข้
15. 48% ของพยาบาลในชิคาโกมีความเชื่อว่า การพูดคำว่า “Quiet” จะนำโชคร้ายมาให้
16. ผู้ป่วยชาวบราซิลในอดีตเมื่อ 100 ปีก่อน มักรับการรักษาจากหมอชาวบ้าน และยาที่ครอบครัวทำขึ้นเอง ก่อนที่จะมีการปฏิวัติวงการแพทย์ในบราซิลเวลาต่อมา
ที่มา: scrubsmag