สถาบัน Legatum ได้ออกดัชนีวัดความมั่งคั่งประจำปีครั้งที่ 11 ของโลก ซึ่งเป็นการสำรวจเพื่อจัดอันดับประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
แม้ว่าจำนวนเงินคงคลังในประเทศจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่นำมาพิจารณาความมั่งคั่ง แต่เงื่อไขและเกณฑ์การให้คะแนนมีมากกว่านั้น
มีการเปรียบเทียบตัวแปร 104 อย่าง เช่นจำนวนคนที่ต้องทำงานเต็มเวลา จำนวนเซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ตที่ให้บริการ และความรู้สึกของคนในแต่ละวัน วันต่อวัน เพื่อนำมาเปรียบเทียบในการจัดอันดับ
และจากการเก็บข้อมูลนี้ทำให้สามารถแบ่งประเทศทั่วโลกออกเป็น 9 ประเภทย่อยๆ ได้ ดังนี้
– คุณภาพทางเศรษฐกิจ
– สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
– การกำกับดูแลเสรีภาพส่วนบุคคล
– ทุนทางสังคม
– ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
– การศึกษา
– สุขภาพ
– สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
และนี่คือ 15 อันดับแรกของประเทศที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดจากการจัดอันดับทั่วโลก
15. ออสเตรีย
ประเทศเล็กๆ ในตอนกลางของยุโรป ได้รับคะแนนด้านสุขภาพดีที่สุดเป็นอันดับที่ 5 และยังเป็นอันดับที่ 6 ในด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
14. ลักเซมเบิร์ก
แม้จะตกลงมาสองอันดับจากปี 2016 แต่ก็ยังติดอันดับประเทศที่พลเมืองมีสุขภาพดีที่สุดในโลก และประเทศที่มีความมั่งคั่งที่สุดในปีนี้
13. ไอซ์แลนด์
เช่นเดียวกับในปีที่แล้ว ไอซ์แลนด์ติดใน 5 อันดับแรกด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย ความมั่นคงด้านเสรีภาพส่วนบุคคลและทุนทางสังคม
12. ไอร์แลนด์
โดยรวมแล้วติดอันดับที่ 10 หรือสูงกว่าในสี่ประเภท ส่วนลำดับที่สูงที่สุดของไอร์แลนด์คือด้านเสรีภาพส่วนบุคคลซึ่งอยู่อันดับที่ 5
11. เยอรมนี
โรงไฟฟ้าซึ่งผลิดพลังงานทางเศรษฐกิจของยุโรปอาจจะไม่ได้เก่งในทุกด้าน แต่ผคะแนนรวมก็ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 17 ของประเภทแยกย่อยต่างๆ ซึ่งคะแนนที่ดีที่สุดคือคุณภาพทางเศรษฐกิจซึ่งอยู่ที่อันดับ 9
10. สหราชอาณาจักร
จากการจัดอันดับโดยรวมของปีที่แล้ว คะแนนที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักรอยู่ในด้านของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจซึ่งอยู่อันดับที่ 5
9. ออสเตรเลีย
ด้วยบรรยากาศและธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์จึงไม่แปลกใจเลยว่า ออสเตรเลียจะมีรายชื่อติดเป็นประเทศแรกในประเภททุนทางสังคม แม้ว่าอันดับจะลดลงไปจากอันดับ 6 ในปี 2016 มาอยู่ที่อันดับ 9 ในปีนี้
8. แคนาดา
แม้ว่าคะแนนจะลดลง 3 อันดับจากในปีที่ มาอยู่ที่อันดับที่ 5 แต่แคนาดาก็ยังคงเป็นประเทศที่มีคะแนนสูงเป็นอันดับ 2 ในด้านเสรีภาพส่วนบุคคล
7. เดนมาร์ก
ในปีนี้เดนมาร์กตกลงมาอยู่ในลำดับที่ต่ำที่สุดของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ด้วยคะแนนอันดับ 4 ในด้านทุนทางสังคม
6. เนเธอร์แลนด์
ได้อันดับเพิ่มขึ้นหนึ่งลำดับจากปี 2016 โดยติด 1 ใน 10 อันดับแรกของทุกประเภท แต่ถึงอย่างนั้น ในด้านสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติกลับได้อันดับที่ 46
5. สวีเดน
สวีเดนอับดับพุ่งสูงขึ้นสามลำดับจากปี 2016 ซึ่งในปีนี้ได้อันดับหนึ่งในด้านคุณภาพเศรษฐกิจ และได้ติด 1 ใน 10 ของอีกสามประเภทด้วย
4. สวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์มักติดโผตัวท็อปของการจัดอันดับ โดยเฉพาะความก้าวหน้าด้านการศึกษาที่ยอดเยี่ยม (ได้อันดับที่ 1) และการดูแลสุขภาพที่ดี ซึ่งได้อันดับที่ 3
3. ฟินแลนด์
แม้จะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นประเทศแถบสเเกนดิเนเวีย แต่ฟินเเลนด์ก็ถูกนับเป็นประเทศทางตอนเหนือของยุโรป ซึ่งในปีก่อนๆ เป็นผู้นำด้านการกำกับดูแลมาตลอด ตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดขึ้น
2. นิวซีแลนด์
อดีตประเทศที่มั่งคั่งที่สุดของปีที่แล้ว อับดับร่วงลงในปี 2017 แต่ก็ยังได้ลำดับที่ 1, 2 และ 3 ใน 5 จาก 9 ประเภท โดยคะแนนที่ต่ำที่สุดคืออันดับที่ 23 ในด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
1. นอร์เวย์
ที่หนึ่งในปีนี้ตกอยู่ในกำมือของนอร์เวย์ ด้วยการติด 1 ใน 8 อันดับแรกของทุกประเภท ซึ่งนอกจากการเป็นรัฐแถบสแกนดิเนเวียที่อุดมไปด้วยน้ำมันแล้ว ยังมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ดีที่สุดในโลกและมีการปกครองที่ดีที่สุดอันดับสอง รวมถึงความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดอันดับที่สามของโลกอีกด้วย
ที่มา : www.businessinsider.com