สาวๆ คนไหนที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ แต่ยังกังวลหาชุดแต่งงานที่ถูกใจไม่ได้ บ้างก็ดีไซน์ไม่สวย บ้างก็ราคาแพง จะนำวิธีของเจ้าสาว Becky Brotherhood จากประเทศอังกฤษคนนี้ไปใช้ก็ไม่ว่ากัน
Becky วัย 43 ปี ได้เข้าพิธีวิวาห์กับ Lee Markham วัย 45 ปี ด้วยชุดแต่งงานที่เกิดจากการนำเศษผ้ามาเย็บปะเข้าด้วยกัน พร้อมความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ และครอบครัว
เท้าความกันก่อนว่า Becky ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะได้แต่งงาน เพราะหลังจากคลอดลูกชายกับสามีคนเก่า เธอก็ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมต้องออกจากอาชีพพยาบาล และเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด
ทางด้าน Lee ก็เป็นนักเขียนนวนิยาย และนักออกแบบการเล่าเรื่อง พวกเขาพบกันเมื่อ 5 ปีก่อน ในตอนที่ต่างฝ่ายต่างมีลูกแล้วจากความสัมพันธ์เก่ารวมถึงมีประสบการณ์แย่ๆ ในเรื่องความรักมาก่อนด้วยเช่นกัน
Becky ผู้ไม่เคยคาดคิดเรื่องการแต่งงานมาก่อน เมื่อได้เจอ Lee ความคิดของเธอก็เปลี่ยนไป ทั้งคู่คบกัน รักกัน และ Becky ก็เป็นฝ่ายขอ Lee แต่งงานด้วยตัวเธอเอง
ขณะวางแผนการแต่งงาน เธอเกิดไอเดียออกแบบและตัดเย็บชุดแต่งงานเธอด้วยตัวเอง เธออยากสะท้อนให้เห็นผ่านชุดแต่งงานว่า แม้ต่างฝ่ายจะมีบาดแผลและพบเจอกับความสูญเสียมามากแค่ไหน
แต่ความรักที่มีให้กันและกันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าในอดีตจะผ่านอะไรมาก็ตาม
Becky มีทักษะการเย็บผ้าอยู่แล้ว มันจึงไม่ใช่เรื่องยาก และเมื่อเพื่อนๆ รับรู้ถึงไอเดียชุดแต่งงานของเธอ หลายคนจึงมีส่วนร่วมให้เศษผ้าสวยๆ ทั้งผ้าลูกไม้สีขาว หรือผ้าหายากจากอิหร่าน
เธอชอบไอเดียนี้สุดๆ เพราะทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกัน เหมือนชุดแต่งงานเป็นจุดศูนย์กลางในการรวมทุกคนที่เธอรักเข้าไว้ด้วยกัน
.
ชุดแต่งงานใช้เศษผ้ามากกว่า 50 ชุด และสิ่งที่พิเศษสุดๆ คือการนำของสำคัญจากคนในครอบครัวมาประดับด้วย ทั้งแหวนแต่งงานของพ่อและแม่ของทั้งคู่ เครื่องประดับชุดแต่งงานสวยๆ จากพี่สาว Becky รวมถึงลูกปัดจากกล่องเครื่องประดับของแม่เธอด้วยเช่นกัน ทั้งหมดถูกเย็บต่อรวมกันอย่างสวยงาม
Becky ใช้เวลาทำชุดประมาณ 3 สัปดาห์ เธอไม่จำเป็นต้องซื้อวัสดุใหม่ใดๆ เลย แถมมันยังมีค่าทางจิตใจต่อเธอสุดๆ
“มันเป็นประสบการณ์ที่น่ามหัศจรรย์สำหรับฉันจริงๆ การได้เห็นคนที่ฉันรักร่วมสนับสนุนเรา อยู่เคียงข้างเราทั้งเวลาทุกข์ และสุข จนมาถึงวันสำคัญ มันเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่ามากๆ เลยค่ะ”
“และฉันก็ดีใจที่ไอเดียการเย็บชุดแต่งงานของฉันได้เป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ อีกหลายคน ฉันแค่ต้องการแสดงให้เห็นว่าเราสามารถทำอะไรก็ได้ หากเราใส่ใจในสิ่งที่ทำมากพอ” เจ้าสาวคนสวยกล่าว
ที่มา: metro