เปิดชีวิตและเส้นทางของ Maggie Smith นับแต่ก้าวแรกสู่การเป็นดาวเด่นบนฟากฟ้าฮอลลีวูด

หนึ่งในดวงดาวจรัสฟ้าของวงการบังเทิงฝั่งตะวันตก สุภาพสตรีผู้หนึ่งที่แม้ชีวิตจะไม่ได้มีข่าวหวือหวา แต่ชื่อเสียงของเธอเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี

Maggie Smith เป็นนักแสดงหญิงมากความสามารถซึ่งในยุคหลังๆ มานี้ เธอได้รับความชื่นชมในหมู่วัยรุ่นนับตั้งแต่ได้รับบทศาสตราจารย์ Minerva McGonagal ในภาพยนตร์ชุด Harry Potter

ทว่าก่อนหน้านี้ Maggie Smith ได้ฝากผลงานมากมายที่ทั้งสดใสและน่าทึ่ง ซึ่งในวันนี้เราจะพาคุณไปย้อนอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้หญิงมากความสามารถคนนี้พร้อมๆ กัน

Margaret Natalie Smith เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ปี 1934 ณ ชานเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งของกรุงลอนดอน ภายใต้การดูแลของครอบครัวที่เรียบง่าย มีคุณแม่เป็นเลขานุการและคุณพ่อที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์

แม้ชีวิตจะไร้สีสันที่หวือหวา ทว่าเด็กหญิง Margaret ก็เฝ้าฝันถึงโรงละครมาตั้งแต่ยังเล็กโดยไม่มีใครในครอบครัวรู้เลยว่าความฝันนั้นกำลังก่อตัวขึ้นมา ความจริงแล้วคุณแม่ของเธอยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กหญิงที่มีใบหน้าไม่พิมพ์นิยมแบบนี้จะกลายมาเป็นนักแสดงหญิงได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม เมื่อสาวน้อยเติบโตขึ้นมา ในวัย 17 ปี เธอเริ่มเรียนการแสดงและได้แจ้งเกิดในเวลาเพียงหนึ่งปีต่อมา ผลงานชิ้นแรกของเธอคือบทบาทของ Viola ใน Shakespeare’s Twelfth Night

Maggie เริ่มต้นอาชีพของตัวเองในฐานะนักแสดงตลกและออกทัวร์แสดงผลงานอยู่หลายปี จนกระทั่งอายุได้ 22 ปี เธอจึงได้โอกาสที่จะเริ่มงานกับบรอดเวย์

จากการสั่งสมประสบการณ์ เธอได้รับเชิญให้ไปร่วมแสดงในโรงละครและละครโทรทัศน์หลายต่อหลายครั้ง แม้ว่าจะเป็นบทเดิมซ้ำๆ ที่ผู้คนเริ่มจนจำและชินชา ทว่าจุดพลิกผันก็มาถึงเมื่อเธอได้มีโอการร่วมเล่นใน Othello ที่จุดประกายให้ไปสะดุดตาของเหล่านักวิจารณ์จนทำให้ Maggie Smith กลายเป็นดาวเด่นที่เหล่าผู้กำกับมือทองแย่งตัวกันในทันที

จากตัวจุดประกายเล็กๆ ที่ทำให้เธอเป็นที่สนใจ บทบาทในภาพยนตร์เรื่อง The Prime of Miss Jean Brodie นำหญิงสาวคนนี้ให้มีชื่อเสียงไปทั่วโลก! การถ่ายทอดที่ทรงพลังทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์ กลายเป็นหนึ่งในตำนานที่น่าจดจำของโลกฮอลลีวูด

Maggie Smith ได้รับรางวัลออสการ์อีกครั้งจากสาขา “นักแสดงสมทบหญิงที่ยอดเยี่ยม” จากบทบาทในภาพยนตร์ California Suite ซึ่งหากนับๆ กันแล้วเธอมีชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar มากถึง 6 ครั้งตลอดชีวิตการทำงานเลยทีเดียว

Maggie Smith เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ขึ้นแท่น “Triple Crown of Acting” กล่าวคือเจ้าของรางวัลอันทรงเกียรติจากทั้งสามเวที (รางวัล Oscar , รางวัล Tony Award และรางวัล Emmy Awards)

แค่บทบาทของ Lady Violet ใน Downton Abbey เพียงบทเดียวก็ทำให้เธอได้รับรางวัล Emmy Awards ถึง 3 รางวัล สิ่งนี้คือตัวการันตีว่าเธอเป็นสุดยอดนักแสดงมากขนาดไหน

นอกจากนี้ Maggie Smith ยังมีผลงานด้านศิลปะและการเรียน ที่แม้ว่าเธอจะไม่ได้เรียนจบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงนอกจากโรงเรียนการแสดง แต่ดูเหมือนว่าความใฝ่รู้จะทำให้เธอได้ค้นพบเรื่องราวที่น่าสนใจด้านวิทยาศาสตร์

ด้านความรัก แรกเริ่ม Maggie Smith มีความสัมพันธ์กับนักเขียนบทละคร Beverley Cross แม้ว่าตอนนั้นเขาจะแต่งงานแล้ว ทว่าในภายหลังเธอเลือกที่จะยุติเรื่องนี้และแต่งงานกับ Robert Stephens นักแสดงที่กำลังโด่งดัง อย่างไรก็ตามชีวิตคู่นี้ก็จบลงเพราะฝ่ายชายเสพย์ติดการดื่มจนทำให้การงานแย่ลงไปด้วย

Maggie Smith มีลูกชายสองคนกับ Stephens ทั้งคู่ตามรอยพ่อแม่เข้าวงการบันเทิงโดย Chris Larkin ได้รับบทที่หลากหลายแม้จะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ส่วน Toby Stephens กลับมีชื่อเสียงโด่งดังหลังได้รับบทคู่แข่งคนสำคัญของ James Bond ใน Die Another Day

ไม่นานหลังจากหย่าร้าง เธอแต่งงานอีกครั้งกับ Beverley Cross และใช้ชีวิตร่วมกันนานถึง 22 ปี จนกระทั่งเขาป่วยและจากโลกนี้ไป

ช่วงเวลานั้น Maggie ต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจและความสูญเสีย อาการป่วยหลังจากนั้นทำให้เธอต้องหยุดรับงานไปพักใหญ่ จนกระทั่งกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งกับบทศาสตราจารย์สุดเฮี้ยบของฮอกวอร์สต์ และร่วมการรณรงค์หาทุนสำหรับแมวจรจัดในสหราชอาณาจักร

ขณะถ่ายทำ Harry Potter and the Half-Blood Prince เธอต้องต่อสู้กับมะเร็งเต้านมไปด้วย อย่างไรก็ตามเธอสามารถเอาชนะมันมาได้ สิ่งนี้สามารถแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างมากมาย

แม้จะหาย แต่เพราะโรคนี้ทำให้เธอต้องทิ้งการทำงานที่รักไปนานถึง 12 ปี จนทำให้เธอกลัวว่าเธอจะไม่สามารถกลับมารับงานได้อีก ทว่าสามารถพิสูจน์ได้ด้วยผลงานในปี 2019 เรื่อง A German Life ที่ทำให้ชื่อของ Maggie Smith ได้รับการพูดถึงอีกครั้ง

เรียกได้ว่าตลอดชีวิตและการทำงาน ผู้หญิงคนนี้ต้องผ่านเรื่องราวมากมายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ทั้งฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมไปจนถึงพลังใจที่เปี่ยมล้น ทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเธอคือสาวแกร่งที่คู่ควรกับตำแหน่งดาวประดับฟ้ามากแค่ไหน :)

ที่มา: brightside

ร่วมแสดงความคิดเห็น...