แน่นอนว่าในขั้นตอนแรกของการเรียนภาษา การเรียนรู้คำศัพท์คือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งและหนึ่งในหมวดหมู่คำศัพท์เบสิกที่ควรรู้คือคำศัพท์เกี่ยวกับฤดูต่างๆ โดยเฉพาะฤดูที่ไม่มีในประเทศไทยอย่างฤดูใบไม้ผลิ หรือ Spring ที่มีคำศัพท์ที่น่าสนใจมากมาย
ฤดูใบไม้ผลิคือฤดูหลังจากผ่านช่วงเวลาอันเหน็บหนาวมาแล้ว แสงแดดส่องรำไร นกร้อง ดอกไม้บาน เป็นฤดูของกิจกรรมสุดวิเศษ มันจึงเป็นฤดูโปรดของใครหลายคน เราไปดูลิสต์คำศัพท์กันเถอะ! ว่ามันจะสดใสแค่ไหนกัน :D
April Showers
หมายถึงฝนในฤดูใบไม้ผลิ มาจากประโยคที่ว่า “April showers bring May flowers,” มีหมายความว่า “ฝนในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลินำมาซึ่งดอกไม้บานแสนสวยงามในเดือนพฤษภาคม”
Bloom
เป็นคำที่ใช้อธิบายต้นอ่อนของดอกไม้หรือต้นไม้ที่กำลังแตกหน่อเบ่งบานเป็นดอกไม้ คำนี้ยังใช้เป็นคำนามแสดงให้เห็นภาพถึงกลุ่มดอกไม้ที่อยู่รวมกัน
Breeze
หมายถึงลมในอากาศที่โชยอย่างอ่อนโยน เป็นสายลมเบาๆ ที่สงบนิ่งอยู่บนต้นไม้ พัดพาความกังวลใจให้หายไป
Cheerful
คำนี้แสดงถึงกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ที่มีแต่ความ ‘ร่าเริง’ ผู้คนได้ออกมารับแสงแดดอุ่นๆ หลังจากผ่านพ้นฤดูหนาวไปแล้ว แสดงถึงความสุขที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงและดอกไม้เริ่มเบ่งบาน
Crisp
คำนี้ถูกใช้เพื่ออธิบายถึงอากาศภายนอกว่ามันไม่ร้อนเกินไปหรือหนาวเกินไป มักใช้ในเชิงบวก เป็นวิธีอธิบายอย่างน่ารักๆ ถึงวันฤดูใบไม้ผลิที่แสนสดใส
Puddles
คือหลุมบ่อที่มักจะเกิดเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กหลังฝนตก เป็นสถานที่ที่เด็กๆ ชอบเล่นกระโดดข้ามไปมาอย่างสนุกสนาน
Hatch
เมื่อลูกนกเกิด มันต้อง ‘ฟัก’ ออกมาจากไข่ของมันเอง คำนี้มักถูกใช้อธิบายการกระทำของสัตว์ที่เกิดขึ้นได้จากการฟักตัว
Pollen
หมายถึงละออกเกสรดอกไม้ มักทำให้เกิดอาการแพ้และจามสำหรับคนที่แพ้ละออกเกสรดอกไม้
Fresh
เป็นอีกคำที่มีความหมายคล้ายกับคำว่า New และ Clean ที่แปลว่าใหม่ และสะอาด คำนี้ถูกใช้บ่อยๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพราะฤดูกาลนี้เกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นของชีวิตใหม่
Rainbow
หลังจากฝนตกก็มักจะปรากฎ ‘สายรุ้ง’ ขึ้นบนท้องฟ้า เป็นเส้นโค้งครึ่งวงกลมเต็มไปด้วย 7 สีที่เกิดจากการสะท้อนของแสงแดดในสายฝน
การเรียนรู้คำศัพท์ผ่านสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติรอบตัวเราจะทำให้สกิลภาษานั้นก้าวกระโดดไปได้มากเลยล่ะ อย่าลืมว่าการเรียนรู้นั้นง่ายนิดเดียว ขอแค่ลองเปิดใจและมองโลกในมุมใหม่ๆ ดู ^^’
ที่มา: kaplaninternational