ในช่วงเวลาที่เกิดโรคร้ายขึ้นแบบนี้ หนึ่งในมาตรการที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นที่ตัวเองคือ ‘Social Distancing’ หรือ ‘การเว้นระยะห่างทางสังคม’
เชื่อหรือไม่ว่าพฤติกรรมและการรณรงค์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดไข้หวัดสเปนราวปี 1918
และนี่คือเรื่องราวของชาวสหรัฐอเมริกา ในวิกฤติไข้หวัดใหญ่สเปน และผลกระทบที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ที่ทำตามการเว้นระยะห่างทางสังคม และผู้ที่ไม่ทำตาม
ย้อนไปในอดีตที่เกิดไข้หวัดสเปนขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ชาวสหรัฐอเมริกาต่างก็เริ่มต้นเว้นระยะห่างทางสังคมกันแล้ว แม้จะยังไม่มีคำนี้เกิดขึ้นเลยก็ตาม
จากวิดีโอข่าวสั้นของ VOA ได้อธิบายถึงเหตุการณ์ข้างต้นไว้ขณะเกิดการระบาดว่า เจ้าหน้าที่ในเมืองเซนต์หลุยส์ได้สั่งให้ปิดโรงเรียน สนามเด็กเล่น ห้องสมุด โบสถ์ สำนักงานต่างๆ และสวนสาธารณะ และห้ามการชุมนุมที่มากกว่า 20 คน
ในขณะเดียวกันที่เมืองฟิลาเดลเฟียกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม นั่นคือการอนุญาตให้เกิดการเดินขบวนพาเหรดเพื่อสนับสนุนสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมถึง 20,000 คน
และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือทุกโรงพยาบาล 31 แห่งของเมืองฟิลาเดลเฟียเต็มไปด้วยผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สเปนที่ป่วยและต้องเสียชีวิตลง
การเปรียบเทียบระหว่างเมืองเซนต์หลุยส์และเมืองฟิลาเดลเฟียได้แสดงให้เห็นถึงมุมมองที่มีของโรคร้ายที่แตกต่างกัน แนวคิดกลยุทธ์ทางสังคม และมาตรการการป้องกันของแต่ละเมือง
และแม้ว่าโรค COVID-19 อาจจะไม่ได้รุนแรงเท่าไข้หวัดใหญ่สเปน แต่เราทุกคนก็สามารถเลือกได้ว่าต้องการผลลัพธ์เหมือนเมืองเซนต์หลุยส์ หรือเมืองฟิลาเดเฟีย แบบไหนกันแน่ที่คุณต้องการ?
ที่มา: openculture