หนึ่งในเสน่ห์อมตะของภาพยนตร์สุดคลาสสิกไม่ว่าจะเป็น Back To The Future , Star Wars หรือแม้แต่ Jurassic Park นอกเหนือไปจากเนื้อเรื่องแล้ว นั่นก็คือเทคนิคการถ่ายทำที่ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมอย่างสมจริงโดยที่ในยุคนั้นการทำ CG ยังไม่แพร่หลายและรุ่งเรืองอย่างทุกวันนี้
เคยสงสัยไหมว่าเทคนิคพิเศษเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร? เบื้องหลังการถ่ายทำ พวกเขาใช้วิธีไหนที่ทำให้ได้ซีนระดับตำนานที่ยังเป็นที่จดจำจนทุกวันนี้? เราจะพาคุณไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน เลื่อนลงไปดูได้เลย!
ใน Star Wars: A New Hope (ปี 1977) มีการนำกระจกมาติดไว้ที่ด้านข้างของยานเพื่อให้ดูเหมือนกำลังบินอยู่จริงๆ
ใน Back To The Future Part II (ปี 1989) ทีมงานเหล่านี้คือเบื้องหลังแจ็กเก็ตปรับขนาดอัตโนมัติ
ใน Star Wars: The Phantom Menace (ปี 1999) เบื้องหลังผู้ชมในสเตเดียมคือเหล่าหุ่นตัวเล็กตัวน้อยนี้
ใน Elf (ปี 2003) มีการใช้มุมกล้องเพื่อให้ Will Farrell ดูตัวโตมากขึ้น
ใน Ghostbusters (ปี 1984) Stay Puft Marshmallow Man ถูกสร้างด้วยการให้นักแสดงสวมชุดแล้วลงไปอาละวาดบนท้องถนนจำลอง
ใน 2001: A Space Odyssey (ปี 1968) มีการสร้างฉากจำลองขนาดใหญ่ในรูปแบบชิงช้าสวรรค์เพื่อให้นักแสดงรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในอวกาศจริงๆ
ใน The Terminator (ปี 1984) หุ่นเหล็กที่เข้าฉากนั้นเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่นักแสดงแบกไว้บนหลัง
ใน Charlie Chaplin’s Modern Times (ปี 1936) ฉากโรลเลอร์สเก็ตนั้นถูกถ่ายทำบนภาพที่ถูกวางไว้บนเเผ่นกระจก
ใน The Empire Strikes Back (ปี 1980) มาสเตอร์โยดาคือหุ่นเชิดที่แสดงโดย Frank Oz
ใน Superman (ปี 1978) แทนการใช้สลิง นักแสดงถูกดีดขึ้นไปเพื่อให้ได้ฉากบินที่สมจริงมากยิ่งขึ้น
ใน Return of the Jedi (ปี 1983) สัตว์ประหลาดของ Jabba ถูกทำให้สมจริงด้วยเทคนิคนี้
ใน Mary Poppins (ปี 1964) พวกเขาใช้โซเดียมสกรีนเพื่อเตรียมตัดฉากอนิเมชั่นเข้าไปในภายหลัง
ใน Jurassic Park (ปี 1993) มีการสร้างหุ่นที่มีขนาดเท่าของจริงของไดโนเสาร์เพื่อมาเข้าฉาก
ใน Back To The Future Part II (1989) มีการใช้บอร์ดลอยน้ำนำมาติดไว้ที่เท้าของ Michael J. Fox เพื่อให้ได้ภาพการทรงตัวที่สมจริงยิ่งขึ้น
ใน 3 ภาคแรกของการถ่ายทำ Star Wars (ปี 1977 – 1983) ฉากหลังทั้งหมดถูกวาดขึ้นด้วยมือ เพื่อนำมาประกอบเทคนิคการถ่ายทำและสร้างซีนที่น่าตื่นตาตื่นใจ
นอกเหนือไปจากการใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ขั้นสุดยอดแล้ว ความพยายามและความอดทนยังเป็นกุญแจสำคัญที่นำมาสู่ความสำเร็จอีกด้วย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าทีมสร้างของภาพยนตร์เหล่านี้มีครบจริงๆ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ภาพยนตร์ที่พวกเขาทุ่มเทปลุกปั้นขึ้นมาจะได้รับการจารึกไว้เป็นตำนานของโลกฮอลลีวูด :)
ที่มา: brightside