จีนจัด “ขบวนรถไฟคนโสด” ให้หนุ่มสาวไปตามหารักแท้บนรถไฟ Love-Pursuit Train

การตามหารักเเท้ในยุคนี้ไม่ต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเดียวอีกต่อไป! เพราะหน่วยงานรัฐเองก็จะเป็นฝ่ายให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน!!

ทุกวันนี้ประเทศจีนกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนประชากรหญิงเนื่องจากสักส่วนของเพศชายที่มีมากกว่าถึง 30 ล้านคน รวมถึงสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยทำให้การแต่งงานดูเป็นเรื่องที่ยากกว่าในอดีต ดังนั้น เพื่อช่วยให้ประชาชนได้พบเจอกับรักแท้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ได้มีโอกาสพบกับเพื่อนใหม่ จึงได้มีการจัด Love-Pursuit Train ภายใต้ชื่อโครงการขบวนรถไฟตามหารัก หรือขบวนรถไฟหมายเลข Y999

โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน ณ เมืองฉงชิ่ง ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน โดยเป็นการนำหนุ่มโสดสาวไร้คู่จำนวน 1,000 คนมาร่วมเดินทางไปบนขบวนรถไฟแห่งรักเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ซึ่งในระหว่างนั้นจะมีการทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อให้ผู้ร่วมขบวนรถได้ทำความรู้จักกัน โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้ ‘พบรัก’ กันนั่นเอง

กิจกรรมนี้นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลจีน หลังจากต้องประสบปัญหาอัตราการสมรสและการเกิดต่ำสุดในรอบ 11 ปี ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจจากการขาดแรงงานในอนาคต การแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้พึ่งมีในปัจจุบัน เพราะเมื่อปี 2015 ทางรัฐบาลก็เพิ่งประกาศเลิกใช้นโยบาย One Child Policy หรือนโยบายวางแผนครอบครัวที่ใช้มานานกว่า 36 ปี

มีการศึกษาแล้วพบว่า ผู้ที่เผชิญปัญหา ‘ความโสด’ มากที่สุด คือชายหนุ่มในพื้นที่ห่างไกล โดยพบว่าในบางหมู่บ้าน นั้น มีประชากรเป็นชายโสดอาศัยอยู่กับพ่อแม่ทั้งหมู่บ้านเลยทีเดียว เนื่องจากหญิงสาวส่วนใหญ่นิยมย้ายไปทำงานในเมืองใหญ่ โดยหวังว่าจะได้พบกับคู่ครองที่มีฐานะร่ำรวยกว่า ขณะที่หญิงสาวบางส่วนตัดสินใจที่จะครองโสด ตั้งใจทำงานเก็บเงิน และใช้ชีวิตอย่างอิสระ

ผลของการจัดตั้งโครงการนี้เรียกได้ว่าได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากตามรายงานของ China Daily กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีหนุ่มสาวหลายคู่ที่ได้ออกเดทกันและมีคู่รักถึง 10 คู่พบกันบนรถไฟขบวนนี้ที่ได้ตกลงใจเข้าประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เรียกได้ว่านี่เป็นการสนับสนุนที่ตรงจุดทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ทดลองทำสิ่งแปลกใหม่ แม้ว่าจะไม่ได้เจอเนื้อคู่ทุกคน แต่อย่างน้อยเมื่อได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้ คุณอาจได้เพื่อนซี้กลับมาก็ได้นะ :)

ที่มา: timesnownews ,insider