เคยได้ยินประโยคที่ว่า “ผู้หญิง ถ้าไม่เจ็บ ก็ไม่สวย” บ้างหรือเปล่า?
สาวๆ หลายคน บางครั้งก็ตกเป็นเหยื่อของแฟชั่น ที่แม้จะต้องทนเจ็บปวด หรือรู้ดีกว่าเป็นอันตรายมากแค่ไหน แต่เพื่อให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ที่น่าพอใจ พวกเขาเหล่านั้นก็พร้อมที่จะเสี่ยง
ไม่เพียงแต่ในยุคสมัยปัจจุบัน แต่ย้อนกลับไปในอดีต มีเทรนด์ความงามหลายรูปแบบที่ทั้งเสี่ยง ทั้งอันตราย แต่เพื่อฐานะทางสังคม หรือแม้เเต่เพราะเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ สาวๆ ในยุคนั้นจึงต้องยอมรับความงามทั้งน้ำตา
นี่คือตัวอย่างแฟชั่นที่ทั้งอันตรายและน่าหวาดกลัวที่เคยมียุครุ่งเรืองในอดีต
แฟชั่นเท้าดอกบัวของสาวจีน
.
เป็นเทรนด์ฮิตในสมัยราชวงศ์ซ่ง (ปี 960 – 1279) สาวจีนในยุคนั้นจะใช้ผ้ารัดเท้าตั้งแต่อายุ 4 – 9 ขวบเพื่อให้มีขนาดและรูปร่างที่น่าพอใจ แม้แต่แลกมากับความเจ็บปวดจากการที่กระดูกคดงอก็ตาม
แฟชั่นคอยาวของสาวกระเหรี่ยง
สาวๆ ในชนเผ่ากระเหรี่ยงนั้นจะเริ่มใส่ขดลวดทองเหลืองที่คอตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และเพิ่มจำนวนขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อยืดลำคอให้งามระหง
แฟชั่นฟันดำของสาวญี่ปุ่น
.
ในยุคสมัยที่สีดำคือสีแห่งความงามในประเทศญี่ปุ่น สาวๆ ส่วนใหญ่จึงนิยมนำสีดำมาทาฟัน ซึ่งสีดำนั้นทำมาจากผงตะไบเหล็ก น้ำส้มสายชู และสารสกัดจากพืช เมื่อทำซ้ำๆ สีจะซึมลงไปในเนื้อฟัน จนท้ายที่สุดก็จะย้อมสีฟันได้ง่ายจนเป็นเรื่องปกติ
แฟชั่น Hobble skirts
กระโปรงรูปแบบนี้ได้รับความนิยมในช่วงปี 1908 – 1914 มีลักษณะเป็นกระโปรงยาว มีช่องบริเวณข้อเท้าแคบ เพื่อให้สาวๆ สามารถเดินได้อย่างช้าๆ แต่เนื่องจากรูปแบบกระโปรงทำให้เสี่ยงต่อการล้มได้ง่าย จึงมีการสวมใส่อุปกรณ์อื่นๆ เพื่อให้หัวเข่าชิดเข้าด้วยกันและป้องกันการล้ม
แฟชั่นรองเท้า Crakows
Crakows เป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 15 ทั้งๆ ที่ได้รับการวิจารณ์จากคนยุคนั้นในเชิงลบอย่างมากมาย มันเป็นรองเท้าที่ไม่ได้สวมใส่สบาย ทั้งยังทำให้รู้สึกเจ็บเนื่องจากการบีบที่บริเวณส่วนหน้าของเท้าอีกด้วย
แฟชั่นคอร์เซตบุรุษ
ไม่เพียงแต่สตรีเท่านั้นที่นิยมคอร์เซต เพราะในหมู่ผู้ชายเอง ราวศตวรรษที่ 18 สิ่งนี้เป็นไอเทมยอดฮิตที่เหล่าคุณผู้ชายต่างสรรหามาไว้ครอบครอง โดยในปี 1880 มันูกพัฒนาให้กลายเป็นแถบเเข็งๆ ที่ยึดติดกับกางเกงได้
แฟชั่นพยาธิไดเอท
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 สาวๆ ส่วนใหญ่นิยมกินอาหารเสริมที่มีไข่ของพยาธิตัวตืดเข้าไปเพื่อให้พวกเธอสามารถลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องจำกัดแคลลอรี่ นับว่าเป็นแฟชั่นชวนสยอง เพราะอันตรายที่ตามมามีทั้งการอุดตันของลำไส้ การก่อตัวซีสต์ในตับ ตา สมอง และไขสันหลังอักเสบ
แฟชั่นต่อขนตาโดยใช้เข็ม
อีกหนึ่งแฟชั่นสุดสยอง ด้วยการเย็บขนตาที่ร้อยไว้กับเข็ม ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญจะทำความสะอาดเปลือกตาและถูกด้วยสารละลายที่ผสมโคเคน
โลชั่นสำหรับจัดแต่งวิกผม
ในช่วงปลายยุค 1700 วิกผมถือเป็นเครื่องประดับชั้นสูงที่ทำให้ผู้คนโดดเด่น มีการคิดค้นครีมบำรุงวิกผมเพื่อให้อยู่ทรงและไม่ต้องสระ นั่นทำให้มันเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและเหาจำนวนมาก ว่ากันว่า สาวๆ ต้องเอาที่ครอบครอบวิกไว้ในยามกลางคืนเพื่อป้องกันไม้ให้หนูมาขโมยวิกไป
แฟชั่นกระโปรงที่ติดไฟง่าย
กระโปรงนี้ทำให้สาวๆ ในช่วงปี 1850 เสียชีวิตจากการถูกไฟคลอกไปหลายคน เนื่องจากโครงเหล็กที่สวมไว้ข้างในจะเสียดสีและทำให้เกิดประกายไฟ ส่วนเนื้อผ้าที่ติดไฟง่ายนั้นจะทำให้มันลุกลาม ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะถอดกระโปรงออกได้ในทันที จึงเป็นเหตุให้พวกเธอต้องถูกไฟไหม้อย่างทุกข์ทรมาน
การคุมกำเนิดด้วย Lysol
ในยุคสมัยที่การคุมกำเนิดมีราคาที่สูง เหล่าหญิงสาวจึงต้องหาตัวเลือกใหม่ด้วยการใช้ Lysol ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมาล้างบริเวณน้องสาวของตัวเอง โดยได้รับการรับรองจากทางแบรนด์ว่ามันปลอดภัยที่จะใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
มีรายงานว่าสาวๆ หลายคนเกิดการอักเสบ เป็นแผลพุพอง บางรายเสียชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นทางแบรนด์ก็ยังมีการโฆษณาว่าปลอดภัยที่จะใช้งาน
แฟชั่นสุดโหดเหล่านี้ได้จางหายไปตามกาลเวลา แต่นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า บางครั้งคนเราก็เเสวงหาการยอมรับจากภายนอกโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะต้องสูญเสียไป ทั้งที่จริงแล้ว เราอาจต้องการเพียงการยอมรับในสิ่งที่เราเป็นเท่านั้นเอง
ที่มา: brightside