ของใช้บางชิ้นที่ดูไร้ประโยชน์ หรือดูเหมือนว่าจะใช้งานได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เช่น ลิปบาล์มที่เอาไว้ทาปากเพื่อเติมความชุ่มชื่น แต่จริงๆ แล้วสามารถนำมาดัดแปลงเป็นเทียนไขเพื่อส่องสว่างได้ เช่นเดียวกับข้าวของอีกหลายสิ่งต่อไปนี้
1. บัตรเครดิต
ไปกลางป่ากลางดง หรือเดินเล่นอยู่เพลินๆ แล้วโดนผึ้งต่อยหรือโดนเสี้ยนตำ แต่หาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นไม่ทัน แนะนำให้ควักกระเป๋าสตางค์ หยิบบัตรเครดิตเอาขูดเอาเสี้ยนหนามออกไป
2. ทูน่ากระป๋อง
นอกจากความอร่อยของเนื้อทูน่าแล้ว น้ำมันในกระป๋องนั้นยังใช้จุดเทียนให้โชติช่วงได้ เพียงแค่เจาะรูบนฝากระป๋อง ใส่ไส้ตะเกียงลงไปปล่อยให้น้ำมันซึมจนถึงปลายยอด จากนั้นจุดไฟ ซึ่งสามารถอยู่ได้ถึง 2-3 ชั่วโมง
3. ลิปบาล์ม
ลิปบาล์มเป็นของใช้ติดกระเป๋าของสาวๆ แทบทุกคน ในยามจำเป็น สามารถใช้แทนเทียนไขได้ โดยเสียบก้านไม้ขีดลงไปแล้วจุดไฟ ก้านไม้ขีดจะดูดซึมขี้ผึ้งจากลิปบาล์มเหมือนไส้ตะเกียง แต่อาจต้องหมุนลิปขึ้นให้สุดแท่งเพื่อป้องกันการลุกไหม้
4. Super glue
ในกรณีที่โดนมีดบาดหรือเลือดออก ใช้กาวทาบางๆ บนแผลเพื่อเป็นการปิดแผล และป้องกันการติดเชื้อ
5. บรา
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า บราสามารถป้องกันอนุภาคที่เป็นพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ ซึ่งรูปทรงของบราสามารถครอบปาก และจมูกได้อย่างลงตัว
6. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูสามารถนำมาใช้กับแผลเล็กๆ ที่โดนไฟไหม้ หรือแผลติดเชื้อเล็กๆ นอกจากนี้ ยังใช้ฆ่าเชื้อโรค ทำความสะอาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ
7. ถุงยางอนามัย
ในสถานการณ์ฉุกเฉินสามารถเก็บน้ำใส่ไว้ในถุงยางอนามัย และเก็บน้ำได้ถึง 1 แกลลอน นอกจากนี้ ยังเอามาทำเป็นถุงเท้าสำหรับกันน้ำได้นะ
8. เชือกผูกรองเท้า
ในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกเช่นกันที่เชือกผูกรองเท้าสามารถนำมาผูกเปลกับต้นไม้ได้ หรือใช้เป็นอุปกรณ์ปฐมพยาบาลก็ได้อีก
9. ถุงเท้า
นำถุงเท้ามาใช้กรองน้ำในสถานการณ์ที่ต้องเอาตัวรอด แม้น้ำที่ได้อาจไม่บริสุทธิ์เหมือนใหม่ แต่อย่างน้อยก็สามารถกำจัดสิ่งสกปรกที่มองเห็นได้ หรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆ บางชนิด
10. แว่นตา
แว่นตาสามารถใช้จุดไฟได้ เช่นเดียวกับแว่นขยายที่เอาไปสัมผัสกับรังสีของดวงอาทิตย์ สิ่งที่ต้องทำคือรวบรวมวัตถุสำหรับจุดไฟ เช่น เศษไม้ เศษผ้า แล้วถือแว่นห่างจากวัตถุเหล่านั้นประมาณ 1 ฟุต จากนั้นหันมุมให้แว่นตาอยู่ในลักษณะที่แสงแดดส่องผ่านไปยังจุดเล็กๆ
การเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดเหล่านี้ไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะไม่อาจรู้ได้เลยว่าสถานการณ์ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่
ที่มา: brightside
