ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีสาวๆ ถึง 17 คนที่ได้มอบเสียงของพวกเธอเพื่อเติมชีวิตให้กับเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็นซินเดอเรลลา เบลล์ หรือมู่หลาน เป็นต้น
เจ้าหญิงคนล่าสุดของดิสนีย์อย่าง โมอาน่า ซึ่งผ่านการนำเสนอรูปแบบของหญิงสาวผู้แข็งแกร่งโดยได้สาวน้อยวัย 16 ปีจากฮาวายอย่าง Auli’I Cravalho มารับบทนี้
แต่ก่อนหน้านี้ เหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ต่างมีต้นแบบมาจากสาวๆ ในแต่ละยุคที่เป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังความสำเร็จสู่การเป็นที่รักของเด็กๆ ทั่วโลก มาดูกันว่าสาวๆ คนไหนบ้างที่ร่วมสร้างชีวิตให้เจ้าหญิงทั้งหลายได้โลดแล่นในแผ่นฟิล์ม
สโนว์ไวท์กับเพื่อนสัตว์ป่าตัวน้อยๆ ผู้ต้องพิษจนต้องหลับใหลในปี 1937 กับผลงานภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของดิสนีย “สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด”
ซึ่ง Adriana Caselotti เป็นเพียงนักเรียนหญิงในคอนแวนต์ผู้เอาชนะสาวๆนักแสดงกว่า150 คนและได้รับบทเป็นเจ้าหญิงคนนี้
ในปี 1950 ซินเดอเรลลาได้ปรากฎตัวอย่างงดงามที่งานเลี้ยงของเจ้าชาย
ซึ่งนักแสดงหญิงที่มอบเสียงให้กับธอคือ Ilene Woods ผู้มีรายการวิทยุเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุ 11 ขวบ
เจ้าหญิงออโรร่า กับการนิทราที่แสนงดงามในปี 1959 กับเรื่อง “เจ้าหญิงนิทรา”
Mary Costa ได้รับบทนี้ หลังจากที่เธอร้องเพลงโอเปร่าเพื่อเรียกความสนใจจากวอท์ล ดิสนีย์
สามสิบปีต่อมา เจ้าหญิงเเอเรียลก็ได้อวดโฉมในปี1989 กับเรื่องราวของเธอใน “The Little Mermaid”
Jodi Benson ผู้มอบพลังเสียงให้กับแอเรียลทำให้ตัวละครนี้มีชีวิต จนทีมงานดิสนีย์ต้องเชิญเธอกลับมาร่วมงานทุกครั้งที่มีการโชว์เสียงร้องของเจ้าหญิงเงือกน้อย
ในปี1991 “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ก็เป็นที่รู้จักในฐานะหญิงสาวผู้รักหนังสือและเจ้าชายผู้ต้องคำสาปใต้ร่างของสัตว์ร้าย
Paige O’Hara คือแฟนตัวยงของดิสนีย์ที่ใส่ความเป็นตัวเองลงไปในเจ้าหญิงเบลล์ที่เธอได้รับบท
เจ้าหญิงจัสมินผู้รักอิสระและเข้มแข็ง หนึ่งในตัวละครผู้ดำเนินเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษในปี 1992
ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่มีสองสาว Linda Larkin และ Lea Salonga ร่วมกันเปล่งเสียงให้กับเจ้าหญิงดิสนีย์คนนี้
ในปี 1995 เจ้าหญิงโพคาฮอนทัส ลูกสาวของหัวหน้าเผ่าต้องต่อสู้เพื่ออิสรภาพให้กับคนของตัวเอง
ซึ่งIrene Bedard และ Judy Kuhn ต่างก็ช่วยกันพาให้โพคาฮอนทัสก้าวไปสู่ความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน
ในปี 1998 มู่หลานได้นำพาเกียรติยศกลับมาสู่บ้านด้วยความกล้าหาญและความฉลาดเฉลียว
ซึ่งทั้ง Ming-Na Wen และ Lea Salonga ต่างก็ช่วยเพิ่มความห้าวหาญให้กับมู่หลานได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เทียน่า ในเจ้าชายกบ ปี 2009
และนี่คือ Anika Noni Rose ผู้ที่สามารถเอาชนะตัวแม่อย่าง Jennifer Hudson และ Beyoncé จนได้รับบทเจ้าหญิงเทียน่า
ในปี 2012 เจ้าหญิงเมอริด้าก็มาพร้อมความวุ่นวายในอาณาจกรของเธอจากเรื่อง เบรฟ นักรบสาวหัวใจมหากาฬ
Kelly Macdonald คือหญิงสาวผู้ทิ้งงานในบาร์และผันตัวมาเป็นนักแสดงซึ่งบทของเจ้าหญิงเมอริด้าคือผันที่เป็นจริงของเธอ
ราพันเซลออกจากหอคอยของเธอเพื่อเริ่มก้าวแรกของการผจญภัยในปี 2010 กับเรื่อง “Tangled”
Mandy Moore มอบความห้าวหาญของเธอให้กับราพันเซล (แถมยังชอบเดินเท้าเปล่าเหมือนกันด้วยนะ)
เจ้าหญิงอันนาสามารถปกป้องอาณาจักรจากความเหน็บหนาวชั่วกาลได้สำเร็จในปี 2013 กับเรื่อง”Frozen”
Kristen Bell ได้รับความสนใจจากทางดิสนีย์ตั้งแต่เธอไปออดิชันเพื่อรับบทในเรื่อง Tangled
และเมื่อมีเจ้าหญิงอันนา เราต้องไม่ลืมราชินีเอลซ่า
ซึ่ง Idina Menzel ได้โชว์พลังเสียงของเธอในบทเพลงที่ดังไปทั่วโลกอย่าง “Let It Go”
และเจ้าหญิงคนสุดท้ายผู้พยายามปกป้องเกาะและผืนน้ำทั่วท้องทะเลเอาไว้ในปี 2016 โมอาน่า
กับ Auli’i Cravalho ผู้ได้รับบทนี้ไปโดยที่ไม่ต้องเข้าทดสอบหรือแข่งขันกับใครเลยด้วยซ้ำ (เกิดมาเพื่อเป็นโมอาน่าจริงๆ)
และทั้งหมดนี้คือเจ้าของเสียงของเจ้าหญิงที่รักของเรา สังเกตให้ดีแต่ละคนต่างก็มีบุคลิกบางอย่างตรงกับบทบาทตัวละครเลยเนอะว่ามั้ย!?
ที่มา : thisisinsider