ปัจจุบันมี 22 สายการบินที่อยู่ในกระบวนการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่หรือ (AOC Re-certification) จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยหรือ กพท. ซึ่งการประ เมินล่าสุดคาดว่าจะมีอีก 2 สายการบินเท่านั้นที่จะได้รับมอบ AOC ใหม่ คือ สายการบินนิวเจนแอร์ ซึ่งจะรับมอบวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ส่วนเอ็มเจ็ท ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการตรวจที่ 4.1 สายการบินกำลังเร่งแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อให้เข้าสู่ขั้นตอน 4.2 ซึ่งคาดว่าจะทันสิ้นเดือนนี้
ส่วน 12 สายการบินเป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะไม่สามารถผ่านการตรวจสอบได้ทันในเดือนกันยายนนี้ตามที่กพท. กำหนดไว้ และสายการบินเหล่านี้ต้องหยุดทำการบินเส้นทางบินระหว่างประเทศ ซึ่งได้แก่1.โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ส 2. เค-ไมล์ แอร์ 3. สยามแลนด์ ฟลายอิ้ง 4.บริษัท เอช เอส เอวิเอชั่น จำกัด 5.สายการบินเจ็ท เอเชีย 6.บริษัท เอซี เอวิเอชั่น จำกัด 7.แอ๊ดวานซ์ เอวิเอชั่น 8.สกายวิว แอร์เวย์ส 9. เอเชีย แอตแลนติก แอร์ไลน์ส 10. วีอี เจ็ทส์ 11.สยามแอร์ ทรานสปอร์ต และ 12. สายการบินไทยเวียดเจ็ท ซึ่งขณะนี้มีบางสายการบิน อาทิ โอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ส และไทยเวียดเจ็ท ได้เสนอขอเพิ่มเที่ยวบินในประเทศเข้ามาแล้ว ในระหว่างที่ต้องหยุดทำการบินเส้นทางบินระหว่างประเทศ
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท. เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการออกใบรับรองAOC ใหม่ ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในกระบวนการขอปลดธงแดง จากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศหรือ ICAO ซึ่งล่าสุดกพท.คาดว่าจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จะสามารถออก AOC ให้สายการบินของไทยได้รวมทั้งหมด 10 สายการบิน ส่วนอีก 12 สายการบินที่เหลือ นับจากเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป ผู้ประกอบการรายใดที่ยังไม่ได้ AOC ใหม่ กพท.จะสั่งให้หยุดทำการบินเส้นทางบินระหว่างประเทศไว้ก่อน เพื่อรอการปลดธงแดงและจนกว่าจะผ่านการตรวจสอบ
เนื่องจากคาดว่าในเดือนกันยายนนี้ ทาง ICAO น่าจะเข้ามาตรวจสอบ ICVM (ICAO Coordinated Validation Mission) เพื่อปลดธงแดง ตามที่ กพท. ได้ยื่นขอไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ กพท.ได้ออก AOC ใหม่ให้สายการบินไปแล้ว 8 สายการบิน ได้แก่ บางกอก แอร์เวย์ส,ไทยแอร์เอเชีย,การบิน ไทย,นกสกู๊ต,ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์,นกแอร์,ไทยสมายล์ และไทยไลอ้อน แอร์ และมี 2 สายการบินที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ที่คาดว่าน่าจะออก AOC ใหม่ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ คือสายการบินนิวเจนแอร์ และ เอ็ม เจ็ท
อีกทั้งในช่วงนี้กพท.ได้เตรียมความพร้อมของทีมงาน เพื่อรองรับการตรวจสอบ และได้ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) 33 ข้อ มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับปรุงทั้งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง, ขั้นตอนการทำงาน, คู่มือ Checklist, แบบฟอร์มสำคัญ รวมถึงจัดการอบรมที่เหมาะสมให้กับพนักงานและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนปรับปรุงการตรวจประเมินออก AOC ใหม่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ICAO กำหนด โดยสิ่งที่ได้แจ้ง ICAO ไป ก็ได้ทำ เสร็จหมดแล้ว เพื่อให้ ICAO เห็นว่าการกำกับดูแลการบินพลเรือนของไทย กลับมาสู่มาตรฐานได้แล้ว นายจุฬา กล่าวทิ้งท้าย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560
ที่มา: thansettakij