กระแสการเข้าเรียน หลักสูตรอินเตอร์ ถูกพูดถึงกันมากในยุคที่ภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างสูง เหตุผลส่วนใหญ่ที่เลือกเรียนอินเตอร์คงหนีไม่พ้น อยากเก่งภาษาอังกฤษและอยากเพิ่มทักษะในเรื่องการฟัง พูด อ่าน เขียน
ผู้ปกครองบางคนมองว่าการเรียนหลักสูตรอินเตอร์คือการลงทุนด้านการศึกษาให้ลูกในอนาคต ยอมเสียเงินค่าเทอมแพงๆ เพื่อแลกกับโอกาสและความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ดังนั้นการเรียนภาคอินเตอร์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสมากขึ้นในการทำงานในอนาคต
ส่วนในมุมมองของนักศึกษาบางคนก็คิดว่าการเรียนหลักสูตรอินเตอร์นั้นสามารถใช้ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในการสมัครงานหรือเป็นใบผ่านทางได้ โดยที่ไม่ต้องยื่นคะแนนรอบ admissionให้เสียเวลา แค่สอบวัดระดับภาษาอังกฤษให้ผ่านเกณฑ์ก็สามารถมีที่นั่งเรียนได้แล้ว กลายเป็นค่านิยมอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่ทางบ้านมีฐานะด้านการเงินและต้องการเข้าศึกษาเพราะอยากได้ชื่อมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตามการเรียนหลักสูตรอินเตอร์ได้นั้น ไม่เพียงแต่จะเก่งภาษาอังกฤษอย่างเดียว แต่จะต้องมีทักษะด้านอื่นๆ ประกอบด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคณะและสาขาที่เลือกเรียน ปัญหาที่พบมากที่สุดในการเรียนคือ ความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเรียนการสอน ซึ่งแน่นอนว่าหลักสูตรอินเตอร์จะต้องมีผู้ถ่ายทอดวิชาเป็นอาจารย์ต่างชาติ รวมไปถึงอาจารย์ในแทบเอเชียซึ่งก็จะมีสำเนียงที่ต่างกันออกไป ดังนั้นอุปสรรคทางด้านภาษานี้เองจึงส่งผลต่อความเข้าใจในเรื่องของเนื้อหาวิชาและการตอบสนองต่อการเรียนรู้ในชั้นเรียน
นอกจากปัญหาทางด้านภาษาแล้ว ยังมีปัญหาจากตัวผู้สอนเอง ซึ่งอาจจะเป็นคนถ่ายทอดวิชาไม่เก่ง ส่งความรู้ไปให้นักศึกษาไม่ครบ 100 % รวมไปถึงปัญหาจากตัวผู้เรียนแต่ละคน ความเข้าใจ การคิดวิเคราะห์ ความไวในการเรียนรู้ ระดับสติปัญญาย่อมแตกต่างกัน ทำให้ที่กล่าวมาทั้งหมดกลายเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ส่งผลให้นักศึกษาบางคนถึงกลับลาออกหรือโดนรีไทร์เพราะเกรดไม่ถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่านักศึกษาที่ไม่ได้ลาออกหรือโดนรีไทร์จะเก่งภาษาอังกฤษเท่าๆ กันหมด ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในระดับปานกลางถึงดีมาก บางคนยื่นคะแนนสอบตรงผ่านแต่พอเข้าไปเรียนจริงๆ ก็เรียนไม่ไหว เกิดความท้อแท้ใจจึงตัดสินใจลาออก ส่วนบางคนไม่ได้ตั้งใจเข้าแต่แรก แต่ไม่อยากเสี่ยงกับการยื่นคะแนน admission จึงลองยื่นคะแนนสอบตรง ปรากฏว่าติดและก็เรียนได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจขวนขวาย ความพยายาม และความสามารถในการปรับตัวของแต่ละคน
ดังนั้น หากเราจะกล่าวว่าเรียนอินเตอร์คุ้มค่าหรือไม่? คงต้องตอบว่า “คุ้มค่ากับคนบางคน” เพราะในด้านเศรษฐศาสตร์นั้นหมายถึง เด็กอินเตอร์ที่จบมาจะมีการงานอาชีพที่สามารถสร้างรายได้มากกว่าเด็กที่จบหลักสูตรธรรมดาทั่วไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัครด้วย โดยเฉลี่ยจะได้เปรียบเมื่อคำนึงถึงภาษาและสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างทางทัศนคติ ที่เอื้อให้เกิดโอกาสทำงานในบริษัทที่มีความเป็นสากล หรือทำงานต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี เมื่อพูดถึงจำนวนเงินค่าเทอมที่เสียไปรวม 4 ปี ที่เหยียบเกือบหลักล้านว่าคุ้มค่าไหม อาจกล่าวได้ว่า ส่วนใหญ่เด็กเรียนอินเตอร์เมืองไทย บ้านมีฐานะการเงินดีอยู่แล้วในระดับหนึ่ง อาจจะไม่สนว่าคุ้มไหมในเชิงการเงิน เพราะพ่อแม่ก็หวังให้ลูกได้ในสิ่งที่ดีที่สุด
เครดิต: ASTV