จากบทความที่แล้ว ผมได้นำเสนอความคิดเห็นของ Dr. Nicholas Burnett ต่อหัวข้อ “ประเทศไทยจะหลุดจากอันดับรั้งท้ายคุณภาพการศึกษาได้อย่างไร” ในงานประชุมวิชาการ อภิวัฒน์การเรียนรู้ สู่จุดเปลี่ยนประเทศไทย ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย
สำหรับบทความนี้มาดูความเห็นของอีกท่านกันบ้าง นั่นก็คือ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ศ.นพ.ประกิต มองว่า งบประมาณด้านการศึกษาของไทยมีการเพิ่มขึ้นจำนวนมากในแต่ละปี แต่ระบบบริหารจัดการยังคงเป็นแบบการรวมศูนย์และการสั่งการจากบนลงล่าง (Top-Down)
นอกจากนี้ยังไม่มีการปฏิรูประบบงบประมาณสนับสนุน ไม่มีการจัดสรรงบประมาณหรือระบบบริหารที่จะทำให้ภาคส่วนต่าง ๆ นอกกระทรวงศึกษาธิการได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการและพัฒนา การศึกษา
แม้จะมีบทบัญญัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แต่ ศ.นพ.ประกิต ก็ตั้งคำถามว่า ชุมชนของเรามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเพียงแค่ในกระดาษหรือไม่
นอกจากนี้ ยังได้หยิบยกกรณีศึกษาการปฏิรูปการศึกษาของฮ่องกงมากล่าวถึง โดยไทยมีความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนให้โรงเรียนมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และสร้างความมั่นใจว่าทรัพยากรที่จัดสำหรับการศึกษาของโรงเรียนถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและอย่างมีความรับผิดชอบ
ซึ่งการตั้งกองทุน Quality Education Development Fund (QEDF) ซึ่งมีลักษณะเดียวกับ Quality Education Fund (QEF) ในฮ่องกง จะสามารถตอบสนองความกังวลของสังคมเกี่ยวกับการขาดงบประมาณสนับสนุนได้
ข้อมูลจาก: dailynews