Moncef Marzouki ประธานาธิบดีแห่งตูนิเซีย วัย 68 ปี ประกาศลดเงินเดือนตัวเอง ลงถึง 2 ใน 3 ส่วน ในวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 เมษายน) ระหว่างเข้าร่วมพิธีครบ 58 ปีการสถาปนากองกำลังความมั่นคงภายในของตูนิเซีย เพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านงบประมาณของชาติ
ทั้งนี้เกิดจากที่ตูนิเซียกำลังประสบปัญหา ขาดดุลงบประมาณ ในระดับที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี เพราะรายได้จากการส่งออกที่ลดฮวบ หลังจากที่หลายประเทศในสหภาพยุโรป (EU) ที่เป็นตลาดการค้าใหญ่ที่สุดของตูนิเซีย มีอันต้องประสบกับวิกฤตหนี้สินและภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ
“ข้าพเจ้าเชื่อว่า ตนเองไม่สมควรรับเงินเดือนเต็มจำนวน ตราบใดที่ประเทศของเรายังไม่หลุดพ้นจากวิกฤตงบประมาณ ข้าพเจ้ามิอาจเสวยสุขและอ้าแขนรับผลประโยชน์ใดๆ ตราบใดที่ประชาชนยังคงทุกข์ยาก ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชนชั้นนำทางการเมืองในตูนิเซีย จะยอมสละความสุขสบายของพวกเขาลงบ้าง ในยามที่บ้านเมืองประสบความยากลำบากเช่นนี้” มาร์ซูกี กล่าว
จากข้อมูลระบุว่า ตูนิเซียมียอดการส่งออกสินค้าไปยังอียูสูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการส่งออกทั้งหมดของประเทศ และมีการนำเข้าสินค้าจากอียูสูงถึง 72.5 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ วิกฤตเรื้อรังด้านงบประมาณของตูนิเซีย ยังมีสาเหตุมาจากการทุจริตของนักการเมืองและระบบพวกพ้องของชนชั้นนำในประเทศ ที่ผันงบประมาณแผ่นดินไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในตูนิเซียหลังจากที่ประชาชนลุกฮือโค่นอำนาจของอดีตผู้นำเผด็จการ Zine El Abidine Ben Ali เมื่อเดือนมกราคมปี 2011
ที่มา: ASTV
