นักวิทยาศาสตร์จาก Ohio State University พบว่าแผ่นน้ำแข็งบริเวณเกาะ Pine Island ในทวีปแอนตาร์กติกาของขั้วโลกใต้เกิดรอยร้าวใต้ชั้นน้ำแข็งอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ส่งผลให้น้ำแข็งที่เกาะตัวเป็นเกาะนั้นแตกตัวถี่กว่าปกติ
โดยปีที่ผ่านมาแผ่นน้ำแข็งบนเกาะกว่า 580 ตารางเมตรถูกแยกออกจากตัวเกาะ และจมน้ำไป ถือเป็นอัตราส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังสำรวจพบรอยร้าวบริเวณใต้เปลือกน้ำแข็งบนเกาะที่ยาวกว่า 50 กิโลเมตร ที่พร้อมจะแตกตัวภายในเวลาไม่เกิน 2 ปีจากนี้อีกด้วย
นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้จึงสรุปได้ว่า หากรอยร้าวใต้เปลือกน้ำแข็งยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราเช่นนี้ จะส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งบริเวณเกาะทางฝั่งตะวันตกออกทวีปแอนตาร์กติกาละลายมดไปในอีกไม่กี่สิบปีอย่างแน่นอน
นักวิทยาศาสตร์ยังบอกด้วยว่า หากแผ่นน้ำแข็งบริเวณฝั่งตะวันตกของทวีปแอนตาร์กติกาละลายจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากปัจจุบันถึง 3 เมตร ส่งผลให้ชุมชนที่ตั้งอยู่ริมทะเลหลายแห่ง เช่นเมืองไมอามี และนครนิวยอร์คจมน้ำภายในปี 2100
ข้อมูลจาก: VoiceTV