น้ำหนักร่างกายของคนเรา นอกจากจะมาจากพฤติกรรมการกินแล้วนั้น เชื่อหรือไม่ว่ายังเป็นผลพวงจากพฤติกรรมในชีวิตประจำที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงอีกด้วย ในบทความนี้เราจะไปดูกันซิว่า “8 พฤติกรรมที่จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ โดยที่ไม่รู้ตัว” นั้นมีอะไรบ้าง
จิบไวน์แดงวันละแก้ว
ผลการศึกษาของ Oregon State University เปิดเผยว่า คนที่ดื่มไวน์แดงหรือน้ำผลไม้ที่ทำจากองุ่นแดงวันละแก้วเป็นประจำทุกวัน จะเบิร์นไขมันส่วนเกินได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม เนื่องจากกรดเอลลาจิกที่อยู่ในองุ่นแดงสามารถชะลอการเจริญเติบโตและการพัฒนาเซลล์ไขมันที่จะเกิดใหม่ได้
ออกไปอาบแดดซะบ้าง
ผลการศึกษาที่ได้มาจาก PLoS ONE พบว่าแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้าสามารถช่วยลดความอยากอาหารได้ด้วย รู้อยากนี้แล้วในตอนเช้าก็พาตัวเองออกมารับแสงแดดซะบ้างนะ
ดื่มน้ำเปล่าใส่น้ำแข็ง
นักวิจัยชาวเยอรมันพบว่าคนที่ดื่มน้ำเปล่าใส่น้ำแข็ง 6 แก้วต่อวันนั้นช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้นราว 12 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้พวกเขาเชื่อว่าร่างกายจะทำงานหนักขึ้นเพื่อให้น้ำในร่างกายอุ่นขึ้นก่อนเข้าสู่กระบวนการย่อยอาหาร
นอนหลับในห้องที่มืดสนิท
ผลการศึกษาจาก Ohio State University รายงานว่า คนที่นอนไม่ปิดไฟ หรือนอนในห้องที่ไม่มืดสนิท รวมทั้งเล่นมือถือหรือแท็บเล็ตก่อนนอน มีโอกาสจะนอนหลับไม่สนิทและกินอาหารมากขึ้นในระหว่างวัน ซึ่งผลที่ตามมาคือน้ำหนักขึ้นนั่นเอง
กินมื้อกลางวันให้เร็วขึ้น
นักวิจัยจากสเปนรายงานว่า กลุ่มตัวอย่างผู้หญิงร่างท้วมที่กินมื้อกลางวันหลัง 15.00 น. นั้นลดน้ำหนักได้น้อยกว่าคนที่กินอาหารกลางวันตามเวลาปกติถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่กินอาหารแบบเดียวกันและมีปริมาณแคลอรีเท่ากัน นั่นเพราะเวลาที่เราปล่อยให้ตัวเองหิวโซมาก ๆ พอถึงเวลากินในมื้อถัดไปก็จะซัดแหลกนั่นเอง
ชั่งน้ำหนักอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ผลการศึกษาจาก Cornell พบว่าคนที่ชั่งน้ำหนักสัปดาห์ละครั้ง นอกจากน้ำหนักจะไม่ขึ้นแล้ว เผลอ ๆ บางคนยังน้ำหนักลงอีกต่างหาก ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ควบคุมอาหารด้วยซ้ำ
พกมือถือติดตัวไว้เสมอ
ผลการศึกษาของ Tulane University พบว่าคนที่ใช้แอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการออกกำลังหรือควบคุมแคลอรีอาหารบนสมาร์ทโฟน สามารถลดน้ำหนักได้ และรู้สึกมีแรงกระตุ้นมากกว่าคนที่เล่นฟิตเนสตามตารางที่จัดเองทั่ว ๆ ไป
ดูรูปหรือพูดถึงอาหารที่กินเข้าไป
ผลการศึกษาของ Oxford พบว่าคนที่พูดถึงอาหารที่เพิ่งกินมานั้น เปรียบเสมือนเป็นการย้ำเตือนตัวเองว่ากินอะไรมามากขนาดไหน แล้วมื้อถัดไปก็จะกินน้อยลง
ข้อมูลจาก: kapook