คณะกรรมการอนุรักษ์สัตว์ป่าและปลาประจำฟลอริดา เฝ้าระวังความเป็นไปของ ปรากฏการณ์ทะเลเลือด (Red Tide) ซึ่งก่อตัวขึ้นในอ่าวเม็กซิโก และกำลังเข้าใกล้แนวชายฝั่งรัฐฟลอริดามากขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งนี้คาดว่าทะเลเลือดนี้จะถูกพัดขึ้นถึงชายฝั่งในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี ได้คร่าชีวิตสัตว์น้ำไปแล้วกว่า 700 ตัว นับตั้งแต่หมึกไปจนถึงฉลามหัวบาตร ซากของมันถูกพัดมาเกยหาดทางตะวันตก ซึ่งหากยังไม่สลายตัวและถูกพัดเข้าสู่ชายฝั่งก็จะกระทบทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การตกปลา และเป็นอันตรายต่อผู้คนตามแนวชายฝั่ง
ปรากฏการณ์นี้เคยเกิดขึ้นอย่างรุนแรงมาแล้วในปี 2006 และปีนี้ก็เป็นอีกครั้งที่มีความสาหัสไม่แพ้กัน โดยตอนนี้พบว่าแนวทะเลสีเลือดทอดตัวยาวออกไปเกือบ 130 กิโลเมตร กว้าง 80 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากชายฝั่งออกไปประมาณ 30-145 กิโลเมตร
ปรากฏการณ์ทะเลเลือด (Red Tide) พบได้เมื่ออุณหภูมิของน้ำในทะเลเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สาหร่ายหรือแพลงก์ตอนพืชบางชนิดแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว (algea bloom) ซึ่งในกรณีนี้คือสาหร่าย Karenia brevis ซึ่งสามารถปล่อยสารพิษ brevetoxin ที่มีสีแดงออกมา
โดยสารดังกล่าวเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต และหากคนสูดดมไปเข้าไปจะทำให้เกิดความระคายเคืองทางเดินหายใจ โดยนักวิทยาศาสตร์บางรายชี้ว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้อาจเป็นผลกระทบมาจากปรากฏการณ์เอลนิญโญก็ได้
ข้อมูลจาก: kapook