บทความนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ 7 สถานที่หลอนที่น่ากลัวที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งบางแห่งถึงกับถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์สยองขวัญก็มี ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยครับ
อันดับ 7 – Gonjiam Psychiatric Hospital: Gyeonggi, Korea
เมื่อ 10 กว่าปีก่อนในประเทศเกาหลีใต้ มีข่าวการตายปริศนาของคนไข้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จนกลายเป็นที่ร่ำลือและหวาดผวา จากนั้นไม่นานทั้งคุณหมอและพยาบาล ต่างโดนมัจจุราชลี้ลับปลิดวิญญาณอย่างน่าสงสัย
จนในที่สุดโรงพยาบาลแห่งนี้จึงถูกสั่งปิดตัว กลายเป็นสถานที่รกร้าง ทรุดโทรมสกปรก และยังพบซากข้าวของที่เคยมีอยู่มากมาย เช่น รั้ว ซากเก้าอี้ เตียงคนไข้ โดยโรงพยาบาลนี้เป็นที่รู้จักกันดี ว่าเป็นหนึ่งในสามสถานที่มีผีสิงน่ากลัวที่สุดของเกาหลีใต้ ซึ่งอีกสองแห่ง ได้แก่ Youngdeok haunted house และ Neulbom Garden
อันดับ 6 – Hashima Island: Nagasaki, Japan
แต่เดิมเกาะฮาชิม่า ถูกซื้อโดยบริษัทมิตซูบิชิในปี 1890 เพื่อทำเป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่น ได้เกณฑ์แรงงานชาวจีนและเกาหลีใต้ที่เป็นจำเลยช่วงสงคราม มาทำงานในเหมืองถ่านหิน
จนกระทั่งบริษัทมิตซูบิชิตัดสินใจยุบเหมืองถ่านหินลง ก่อนจะทิ้งให้กลายเป็นเกาะรกร้างที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ กระทั่งปัจจุบันถูกผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพิเศษ ซึ่งมีคนเคยพบอาถรรพ์อยู่หลายครั้ง อย่างบุคคลปริศนาที่โผล่แวบไปมาอยู่ในเกาะ
อันดับ 5 – La Isla de las Muñecas: Teshuilo Lake, Mexico
เกาะแห่งตุ๊กตาสร้างขึ้นโดย Don Julian Santana ซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่มายาวนานถึง 50 ปี กระทั่งปี 2001 เขาจึงได้เริ่มแขวนตุ๊กตาที่พังแล้วบนต้นไม้ของเกาะนี้
เบื้องหลังของตำนานเรื่องนี้มีหลายเวอร์ชั่น ข้อมูลหลักที่ดูคล้ายกันคือ Don Julian Santana ตั้งใจจะอุทิศตุ๊กตานี้ ให้กับความกล้าของเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งจมน้ำในคลอง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเขา บ้างก็ว่าเขาแค่อยากจะให้ผีเพื่อนเขามีตุ๊กตาเล่นก็เท่านั้น
อันดับ 4 – Akodessewa Fetish Market: Lomé, Togo
ตลาดของแปลกแห่งนี้ เป็นที่รวบรวมบรรดาอุปกรณ์ทำคุณไสยฯ พิธีกรรมลี้ลับเอาไว้ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่มีในตลาดนี้ คือของที่เชื่อกันว่ามีพลังวิเศษ สามารถใช้รักษาแบบวูดูได้ เช่น หัวจระเข้ มือลิงชิมแพนซี งูเห่า และกระดูกต่างๆ
จึงทำให้ตลาดแห่งนี้มีทั้งความคึกคัก และพลังงานลี้ลับอะไรบางอย่างแฝงเร้นอยู่ ราวกับเป็นศูนย์รวมวิญญาณขนาดใหญ่ยังไงหยั่งงั้น
อันดับ 3 – Aokigahara Forest: Mount Fuji, Japan
ป่ามรณะ ที่มีคนมาฆ่าตัวตายเฉลี่ย 100 รายทุกปี จนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครหาแรงจูงใจแท้จริงของคนเหล่านั้นได้ แต่ก็มีการสันนิษฐานว่าอาจเป็นจากที่ป่าแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากของนวนิยายหลายเรื่อง ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ตัวละครมักจะมาฆ่าตัวตายที่นี่
บางคนเข้ามาแล้วเปลี่ยนใจ เช่น ติดเทปกาวตามเส้นทางเดินที่เข้ามา เพื่อจะได้กลับออกไปถูก แต่ส่วนใหญ่พอเดินไปตามเส้นทางที่ติดเทปกาวจะเจอศพ ในขณะที่บางคนตั้งใจฆ่าตัวตายจริงๆ โดยจอดรถทิ้งไว้ชายป่าหลายเดือน และมีแผนที่กางบนเบาะหน้าอีกด้วย รวมถึงบางคนเขียนจดหมายลาตาย ถูกตอกติดต้นไม้ นอกจากนี้ยังพบตุ๊กตาปักเข็มหมุดบนต้นไม้ ซึ่งเป็นวิธีสาปแช่งตามความเชื่อโบราณอีกด้วย
อันดับ 2 – Sedlec Ossuary: Czech Republic
โบสถ์แห่งนี้ใช้โครงกระดูกของมนุษย์มาช่วยตกแต่ง กว่า 70,000 ร่าง ที่สังเกตได้ชัดคือแชนเดอร์เลียที่ทำมาจากกระดูกมนุษย์ตั้งอยู่กลางห้อง และตราอาร์มของ Schwarzenbergs ขุนนางชนชั้นสูงของโบฮีเมียนที่ตั้งอยู่ทางซ้าย
ตำนานสุดสยองเล่าว่าแต่เดิมพื้นที่นี่คือสุสาน แล้วในอดีตมีพระรูปอาวุโสนำดินศักดิ์สิทธิ์ จากดินแดนของพระเยซู มาโปรยไว้ ทำให้ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าสุสานแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงต้องการให้ตัวเองหรือญาติพี่น้องมาอยู่ เพราะคิดว่าจะทำให้ใกล้ชิดกับพระเจ้า กระทั่งกระดูกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง Frantisk Rint ศิลปินแกะสลัก ที่ถูกมอบหมายให้สร้างห้องเก็บกระดูก จัดการนำชิ้นส่วนเหล่านี้ สร้างเป็นผลงานศิลปะอันน่าอัศจรรย์และชวนขนลุก
อันดับ 1 – Chernobyl Amusement Park: Pripyat, Ukraine
เหตุการระเบิดของ Chernobyl โรงงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ ที่ประเทศยูเครน ในปี 1986 ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมช็อคโลก ที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ มีการอพยพประชากรมากกว่า 336,000 คน ออกจากพื้นที่อย่างฉุกเฉิน
ในปี 2005 IAEA และ WHO ประมาณการว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากการระเบิดโดยตรงมากกว่า 600,000 คน มีผู้เสียชีวิตทันทีหลังการเกิดระเบิด 56 คน แต่ผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งจากการสัมผัสกัมมันตรังสีอาจสูงถึง 4,000 คน
สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่ต้องห้ามที่ยังรกร้างจนถึงปัจจุบัน คนที่เคยลักลอบเข้าไปสำรวจซากพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของเชอร์โนบิล ต่างเคยเจอประสบการณ์เหนือธรรมชาติ เช่น ความรู้สึกที่เหมือนถูกจ้องมองตลอดเวลา เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ หรือพบเห็นเงาของชายลึกลับที่หลายคนพบเห็น และพูดถึงรูปร่างลักษณะตรงกัน จนถูกเรียกว่า “Slender Man” บ้างก็พบซากตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่ตั้งอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของเชอร์โนบิลอย่างตั้งใจราวกับมีคนมาจัดวางไว้
ข้อมูลจาก: dek-d
