สำหรับเมื่อวานนี้ ทาง WeGoInter.com ก็ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ที่ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 2013 กันนะครับ
และมาวันนี้ เราจะมาต่อกันอีกกับ 9 สถานที่มรดกโลกในภาค2 กัน!! ว่าแต่จะมีอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง หรือจะมีสถานที่ที่เราเคยไปเที่ยวกันมั้ย.. ถ้าพร้อมแล้ว ตามมา!!
9). วนอุทยาน เบิร์กพาร์ค วิลเฮล์มโชเฮ, ประเทศเยอรมนี – ตั้งอยู่ที่เมืองคัสเซิล ริมแม่น้ำฟุลดา เป็นสวนบนภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นแบบสไตล์บาโรค มีจุดเด่นคือ “อนุสาวรีย์เฮอร์คิวลิส” ในเดือนเมษายน – ตุลาคม
ทุกวันพุธและวันอาทิตย์จะมีการปล่อยน้ำจากรูปปั้นเฮอร์คิวลิวไล่ลงมาเป็นขั้นบันไดจบที่น้ำพุ นับเป็นภาพที่งดงามมาก
8). ป้อมปราการฮิลล์ ฟอร์ตส แห่งราชสถาน, ประเทศอินเดีย – ป้อมปราการฮิลล์ ฟอร์ตส ที่ล้อมรอบภูเขาอาราวัลลิสนั้น ถูกสร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ เป็นแหล่งมรดกโลกของอินเดียแห่งที่ 13 แต่ละป้อมจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
7). พระราชวังโกเลสตาน, ประเทศอิหร่าน – ด้วยศิลปะการตกแต่งใช้หินอ่อนและอัญมณีแบบอิสลาม…ก่อให้เกิดพระราชวังโกเลสตาลหรือวังสวนกุหลาบแห่งนี้ อีกทั้งยังมีอ่างน้ำหินอ่อนสีน้ำเงินและสวนดอกไม้นอกพระราชวัง รวมถึงป้อมปราการและตำหนักด้านในที่ประดับประดาด้วยกระเบื้องหลากสีสัน ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความงดงามของพระราชวังโกเลสตานสมบูรณ์
6). ภูเขาไฟฟูจิ, ประเทศญี่ปุ่น – ภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก…ภูเขาไฟฟูจิล้อมรอบด้วย 5 ทะเลสาบสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นคือ ยะมะนะกะโกะ, คะวะงุจิโกะ, โมโตสุโกะ, โชจินโกะ และไซโก้
ด้วยความงดงามของภูเขาไฟฟูจิจึงก่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้แก่นักเขียนและกวีทั่วโลกได้สรรค์สร้างผลงานวรรณกรรม บทกลอน และศิลปะจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
5). มหาวิทยาลัยโคอิมบรา, ประเทศโปรตุเกส – มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และงดงามที่แห่งหนึ่งของโลก มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแบบบาโรคของพระเจ้าจอห์นที่ 3 แห่งประเทศอังกฤษ และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ครอบครองห้องสมุดที่ขึ้นชื่อว่างดงามมากที่สุดในโลกอีกด้วย!
4). เมดิซี วิลลาส์ แอนด์ การ์เดน ในแคว้นทัสคานี, ประเทศอิตาลี – วิลลาแอนด์การ์เดนสไตล์ชนบทแห่งนี้…ตระกูลเมดิซีได้สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความมีอำนาจและอิทธิพลของตระกูล โดยออกแบบสร้างเป็นวิลลา 2 แห่งกับการ์เดนอีก 2 แห่ง สถานที่แห่งนี้..
ไม่เพียงแต่มีความงดงามหรูหราเท่านั้น แต่ยังเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกอำนาจของตระกูลเก่าแก่อย่างเมดิซีอีกด้วย
3). ศูนย์ประวัติศาสตร์อากาเดซ, ประเทศไนเจอร์ – เป็นประตูสู่ทะเลทราบซาฮารา สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 15 – 16 เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มีทางผ่านของคาราวานแลกเปลี่ยนสินค้า มีจุดเด่นคือหอคอยสุเหร่าที่มีความสูงถึง 27 เมตร นับเป็นมรดกโลกแหล่งที่ 3 ของประเทศไนเจอร์แห่งแอฟริกา
2). เขตโบราณสถานอัล ซูบาเราะห์, ประเทศกาตาร์ – หมู่บ้านโบราณแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพ่อค้าชาวคูเวต ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศกาตาร์ ที่ได้รบสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย” เคยเป็นหัวใจหลักของการแลกเปลี่ยนทางการค้า ถูกทิ้งร้างเมื่อปี 1900
ปัจจุบันเหลือเพียงสิ่งก่อสร้างในสมัยโบราณอย่างป้อมปราการและอาคารบ้านเรือนต่างๆ ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงเท่านั้น..
1). กลุ่มโบสถ์ไม้เซอร์ควาส, ประเทศโปแลนด์และยูเครน – โบสถ์ไม้แห่งนี้สร้างขึ้นด้วยฝีมือของชาวคริสต์ในประเทศโปแลนด์และยูเครน เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นจากขอนไม้จำนวนมาก หลังคาเป็นทรงโดมสีเงิน ตกแต่งด้วยภาพเขียนฝาผนังแบบคลาสสิก.. ก่อให้เกิดกลิ่นอายของความย้อนยุคและเป็นตัวแทนที่แสดงถึงความศรัทธาของชาวคริสต์ที่มีต่อพระเจ้าได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีก 9 อันดับสถานที่มรดกโลกในภาค2 ที่เราเอามาให้ได้รับชมกันนะครับ… เราเชื่อว่ากับ สถานที่ทั้งหมดทั้ง 18 สถานที่ที่เรานำเสนอกันไป คงมีหลายต่อหลายคนได้เคยไปเที่ยวไปแวะเวียนเยี่ยมชมกันมาบ้าง และคงพบกับความตื่นตาตื่นใจกับสถานที่เหล่านั้นไม่มากก็น้อย
เอาล่ะครับ ยังไงตอนนี้ต้องขอลาไปก่อน.. ไว้มาพบกันใหม่คราวหน้ากับเรื่องราวอัพเดทส่งท้ายปี2013 กันครับผม!!