หลายคนสงสัยนะครับ ว่าการสมัครเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา นั้นจะต้องมีขั้นตอนและใช้เอกสารอะไรบ้าง??
ผมเลยค้นหาข้อมูลมาตอบกันแบบคร่าวๆ ก่อนนะครับในวันนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่คล้ายๆกันโดยทั่วไป อาจจะมีบางที่ต่างไปนิดหน่อย แต่ก็ใช้รูปแบบประมาณนี้ครับ
การจะสมัครเรียน ควรเตรียมตัวก่อนจะไปเรียนอย่างน้อย 12 เดือน เพื่อค้นหาข้อมูลหลักสูตร และสถาบันต่างๆ ไว้เปรียบเทียบพิจารณากัน
ในช่วงเวลาการเตรียมตัวนี้ก็อาจจะไปสอบเพื่อเตรียมผลคะแนนต่างๆ เช่น TOEFL, IELTS, GMAT, GRE, SAT I หรือผลสอบที่ทางสถาบันต้องการ ซึ่งสถาบันจะระบุมาให้
ทีนี้มาในเรื่องเอกสาร ก็จะคล้ายๆกัน โดยประกอบด้วย
– ใบสมัครของมหาวิทยาลัย สิ่งนี้ขาดไม่ได้อยู่แล้ว
– เงินค่าสมัคร (สิ่งนี้ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน – -“)
– ใบแสดงผลการเรียน หรือใบ Transcript ที่แสดงผลการเรียนระดับชั้นล่าสุด
– ใบแสดงจุดมุ่งหมายทางการเรียนของเรา หรือที่เรียกกันว่า Personal Statement นั่นเอง
– จดหมายรับรอง ซึ่งปกติจะให้อาจารย์ หรือนายจ้างเป็นผู้เขียนให้ 2-3 ฉบับ
– ผลการสอบต่างๆที่ทางมหาวิทยาลัยต้องการ ถ้าเค้าเรียกอะไรเราก็สอบอันนั้นครับ
นอกเหนือไปจากนี้ บางสถาบันอาจจะต้องการ ประวัติส่วนตัว ประวัติครอบครัว ประวัติอาชญากรรม หรือหลักฐานทางการเงินของผู้สมัคร เราก็ต้องจัดหามาให้เค้าตามที่ขอครับ
ถ้ามีเอกสารต่างๆครบ แล้วผลการเรียน รวมทั้งความสามารถของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยต้องการ ก็จะได้รับการตอบรับ เพื่อนำไปตอบรับไปยื่นขอวีซ่ากับทางสถานฑูตต่อไปนั่นเอง
เห็นมั้ยล่ะครับว่าการสมัครไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ที่สำคัญคือต้องเตรียมตัวตั้งแน่เนิ่นๆ อย่างที่บอกว่า 1 ปีขึ้นไป
เพราะฉะนั้น สมมติว่าใครจะสมัครเรียนปริญญาตรี ก็ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ม.5 หรือ ม.6 ขณะที่คนจะเรียนต่อปริญญาโท ก็ต้องหาข้อมูลตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษานะครับ
เว็บไซต์ WeGoInter ก็เป็นอีกช่องทางนึงที่เพื่อนๆน้องๆ จะสามารถเข้ามาหาข้อมูลเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศได้… ใครอยากจะรู้เรื่องอะไรก็สามารถคอมเมนต์เอาไว้ได้เลย แล้วคอยติดตามกันนะครับ ^^