เมื่อปี 2507 Luther Terry นายแพทย์ใหญ่กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น ประกาศว่าการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งปอดและโรคเรื้อรังอื่นๆ เป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นก็มีรายงานถึงโรคต่างๆ ที่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดจากการสูบบุหรี่มาเป็นระยะๆ
ในโอกาสครบรอบ 50 ปีในปีนี้ มีรายงานของ Boris D. Lushniak นายแพทย์ใหญ่สหรัฐอเมริกา พ.ศ.2557 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดรับรอง 9 โรคใหม่ว่าเกิดจากการสูบบุหรี่หรือการได้รับควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบเป็นสาเหตุ ได้แก่
1.มะเร็งตับ
2.มะเร็งลำไส้
3.วัณโรค โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิดวัณโรคเพิ่มขึ้น มีโอกาสเสียชีวิตจากวัณโรคเพิ่มขึ้น และทำให้วัณโรคกลับเป็นใหม่มากขึ้น
4.เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเบาหวานในผู้ใหญ่ 30-40% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
5.จอตาเสื่อมโดยจะสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้น
6.เพดานปากแหว่งตั้งแต่เกิดในมารดาที่สูบบุหรี่
7.การตั้งครรภ์นอกมดลูก
8.โรคข้อรูมาตอยด์และภาวะภูมิต้านทานร่างกายลดลง
9.โรคเส้นเลือดสมองตีบหรือแตกจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง
“โดยรวมแล้วการสูบบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็งถึง 12 อวัยวะ และโรคอื่นๆ อีก 17 โรค ในขณะที่การได้รับควันบุหรี่ในคนที่ไม่สูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคได้สิบโรค ทั้งนี้ รายงานของนายแพทย์ใหญ่สหรัฐอเมริกามีความสำคัญ
โดยการเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกในการยืนยันถึงโรคแต่ละชนิดที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือการได้รับควันบุหรี่ในคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่” ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าว
นพ.ประกิต กล่าวอีกว่า รายงานฉบับปัจจุบันมีความสำคัญมากต่อประเทศไทย ที่ว่ามะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ เป็นมะเร็งลำดับที่หนึ่ง และที่สามในชายไทย ในขณะที่วัณโรค และเบาหวานเป็นโรคที่คนไทยเป็นกันมากขึ้น
สภาพการณ์ของโรคที่เป็นอยู่เป็นผลมาจากการใช้ยาสูบที่มีอัตราสูงมากของชายไทยในอดีตที่สูงถึง 60% เมื่อยี่สิบปีก่อน และแม้ปัจจุบันอัตราก็ยังสูงที่ 40% งานควบคุมยาสูบของประเทศไทยจึงยังต้องการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ภายใต้การนำของรัฐบาลและทุกภาคส่วนอย่างจริงจังต่อไป
ที่มา: trueplookpanya