ในวัยเด็ก เชื่อว่าหนึ่งในความทรงจำที่หลายคนมีคือความสนุกสนานที่ได้เล่นกับเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกันในสนามเด็กเล่นแถวบ้าน หรือแม้แต่ลานเด็กเล่นในโรงเรียน
“ม้ากระดก” เป็นหนึ่งในของเล่นที่ยังคงมีสืบทอดต่อกันมาในปัจจุบัน ที่สำคัญมันถูกนำมาใช้เพื่อแสดงเจตจำนงทางการเมืองโดยไอเดียของหนึ่งในผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของประธานาธิบดี
ณ กลางกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐอเมริกา – เม็กซิโก ระหว่างเอลพาโซ่ เท็กซัส และซิวดัดฮัวเรซ (ในเม็กซิโก) มีม้ากระดกอันใหญ่ปรากฎขึ้นอย่างน่าแปลกใจ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา มันดึงดูดให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เข้าไปเล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่สนใจรั้วเหล็กที่ตั้งตระหง่านขวางพวกเขาอยู่
อัจฉริยะผู้อยู่เบื้องหลังความคิดอันชาญฉลาดนี้ คือ Ronald Rael ศาสตราจารย์ด้านสถาปัตยกรรมที่ University of California, Berkeley และ Virginia San Fratello ร่วมมือกับศาสตราจารย์ด้านการออกแบบที่ San José State University
Rael ได้ทำการโพสต์ภาพม้ากระดกนี้ทั้งแบบวิดีโอและภาพถ่ายลงบนอินสตาแกรม บอกเล่าว่าส่วนที่ดีที่สุดคือทุกคนรักมันไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม จากนั้นโพสต์นี้ก็ได้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์และมีผู้กดไลด์มากกว่า 32,700 ครั้ง (ยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ) นอกจากนี้ยังมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากกว่า 870 รายการ
https://www.instagram.com/p/B0fY2R6hfKr/?utm_source=ig_embed
“นี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในอาชีพการงานของผม และ @vasfsf ก็ทำให้ภาพวาดแนวคิดของ Teetertotter Wall จากปี 2009 กลายเป็นเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุข ความตื่นเต้น และการอยู่ร่วมกันที่กำแพงชายแดน” Rael เขียนลงอินสตาแกรม
ม้ากระดกสีชมพูได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เมื่อกำแพงได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางที่แท้จริงสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ – เม็กซิโก และทำให้เด็กกับผู้ใหญ่นั้นเชื่อมโยงกันด้วยวิธีที่มีความหมายทั้งสองด้าน ด้วยการรับรู้ว่าการกระทำที่เกิดขึ้นในอีกด้านหนึ่งนั้นมีผลโดยตรงกับฝั่งตรงข้าม
หนึ่งในนโยบายของประธานาธิบดี Donald Trump ที่เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการทำให้เป็นจริง (และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก) คือการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก ตามที่ The Guardian รายงาน ศาลสูงสุดของสหรัฐฯได้ตัดสินอนุมัติข้อเสนอนี้ของ Trump และอนุญาตให้เขาใช้เงิน Pentagon 2.5 พันล้านดอลลาร์ในสัญญา 4 ฉบับเพื่อทดแทนอุปสรรคที่มีอยู่เดิมและสร้างโครงการนี้ขึ้นมา
.
แต่อย่างที่บอกว่า เมื่อมีกลายคนไม่เห็นด้วย พวกเขาเลือกที่จะแสดงออกอย่างสันติและทำให้คนอื่นๆ เห็นว่าโลกของเรายังสามารถประณีประณอม ทั้งยังพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสที่จะบอกให้คนอื่นๆ รู้ว่าเราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ ตราบเท่าที่เห็นใจซึ่งกันและกัน
เช่นเดียวกับม้ากระดกสีชมพูนี้ ที่ได้กลายเป็นทั้งจุดยืนอันแน่ชัด และจุดหลอมรวมใจของผู้ที่อยู่ใกล้ชายเเดน
ที่มา: boredpanda