ช่วงนี้กระแสนางงามยังคงคุกรุ่น แม้ว่าผู้ชนะจะสวยสมมงไม่ค้านสายตา แต่ประเด็นอื่นๆ ยังคงถูกหยิบยกขึ้นมาพูดอย่างต่อเนื่อง
แต่วันนี้เราจะไม่ชวนเข้าเรื่องดราม่า แต่จะชวนมารู้จักอีกหนึ่งนางงามหัวใจเเกร่ง สาวนักสู้จากเวียดนามที่ความสตรองของเธอได้รับการยกย่องมากพอๆ กับความสวย นั่นก็คือ H’Hen Nie ตัวแทนสาวงามจากเวียดนามเป็นชนกลุ่มน้อย Rade คนแรกที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ได้
ชีวิตวัยเด็กของเธอไม่ต่างจากชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ที่มีจำนวนประชากรประมาณ 5% ของประเทศซึ่งต้องเผชิญทั้งความยากจน ไม่ได้รับการยอมรับทางสังคม และการขาดแคลนโอกาสทางการศึกษา
สาวๆ ส่วนใหญ่ในบ้านเกิดของเธอมักต้องแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่ง H’Hen Nie เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เมื่อตอนอายุ 14 ปี พ่อแม่ของเธอก็บอกให้เธอแต่งงานตามประเพณีและใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น
ทว่า นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ H’Hen Nie ท้าทายประเพณีของชนเผ่า เธอปฏิเสธการแต่งงานและย้ายไปอยู่ที่โฮจิมินห์
เธอเชื่อว่าหากอยากเปลี่ยนชีวิต เธอต้องเริ่มเรียนหนังสือ ก่อนจะผลักดันตัวเองด้วยการทำงานที่หลากหลาย ทั้งเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เด็กเสิร์ฟ หรือแม้แต่รับจ้างทำความสะอาดบ้านเพื่อส่งตัวเองเรียน นอกจากนี้ยังเป็นทั้งครูสอนพิเศษและเด็กส่งของด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้เธอสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสาขาไฟแนนซ์ได้สำเร็จ
ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป เมื่อมีแมวมองเก็นแววโดดเด่นและเลือดนักสู้จนได้ชักชวนให้เธอมาถ่ายแบบ และกลายเป็นนางแบบ
หลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าประกวดจนได้ตำแหน่งนางงามจักรวาลของเวียดนามมาครอง แต่สิ่งที่น่าตื้นตันใจที่สุดก็คือ เธอนำเงินที่ได้จากการประกวดส่วนที่เหลือ (หลังจากใช้หนี้ให้ที่บ้านเรียบร้อยแล้ว) นำไปสร้างห้องสมุดให้เด็กๆ พร้อมทุนการศึกษา
นอกจากนี้ บนเวที MU 2018 เธอยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ด้วยการเป็นสาวงามเวียดนามคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงรอบ Top 5 ได้ แม้ว่าตัวเธอจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ และถูกล้อเลียนในเรื่องนี้ก็ตาม
ความพยายามของ H’Hen Nie ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับสาวๆ รวมทั้งคนอื่นๆ อีกมากมาย เธอกล่าวว่า “ถ้าฉันเริ่มต้นจากศูนย์ จนมาอยู่ในจุดนี้ได้ คุณก็ทำได้เช่นเดียวกัน”
แม้ไม่ได้ตำแหน่ง แต่ชื่อของสาวงามเวียดนามคนนี้ยังคงได้รับการชื่นชมจากผู้คนทั่วโลก และเป็นแบบอย่างสุดสตรองที่น่านับถือหัวใจนักสู้ของเธอมากๆ เลยล่ะ :)
ที่มา: pep.ph