สรุปความต่างของการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษแต่ละประเภท : ต่างกันยังไง? ใช้ทำอะไร? ค่าสอบเท่าไหร่??

อย่างที่รู้กันว่าภาษาอังกฤษถือเป็นทักษะจำเป็นในยุคปัจจุบันที่ทั่วโลกเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต ดังนั้นการมีคะแนนทักษะภาษาอังกฤษไว้ในมือ ถือเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่จะทำให้คุณก้าวถึงโอกาสดีๆ ได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษนั้นมีหลายประเภท และมีความแตกต่างกันไปตามการใช้งาน นอกเหนือจากการสอบที่เราคุ้นเคยอย่าง TOEIC TOEFL และ IELTS แล้ว คุณอาจเคยได้ยินชื่อการสอบ SAT และ BMAT อีกด้วย

เพื่อไขข้อข้องใจ วันนี้เรามีสรุปที่เข้าใจง่ายสุดๆ พร้อมข้อมูลเบื้องต้นของการสอบเหล่านี้มาฝากค่ะ :D

 

 

TOEFL หรือ Test of English as a Foreign Language (โทเฟล)

เป็นการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ โดยการสอบจะครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ ทั้งการ ฟัง พูด อ่าน เขียน ใช้เวลาสอบประมาณ 3 ชั่วโมง

คะแนนสอบนี้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ใช้ด้ทั้งสำหรับสมัครงานหรือเรียนต่อในสถาบันส่วนใหญ่ มีคะแนนเต็ม 120 คะแนน โดยมากมักกำหนดเกณฑ์คะแนนอยู่ที่ 70 – 90 คะแนน

ค่าสอบ: แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

– TOEFL iBT ค่าสอบอยู่ที่ 215 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,000 บาท

– TOEFL ITP ค่าสอบอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท

 

TOEIC หรือ The Test of English for International Communication (โทอิก)

เป็นคะแนนสอบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ใช้วัดทักษะภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ นิยมใช้ในการสมัครงานมากกว่าการสมัครเข้าเรียนต่อ โดยตัวข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทคือการฟังและการอ่าน

การสอบนี้มีคะแนนเต็มอยู่ที่ 990 คะแนน เกณฑ์คะแนนทั่วไปมักอยู่ที่ 550+ คะแนนขึ้นไป

ค่าสอบ: 1,800 บาท

 

IELTS หรือ International English Language Testing System (ไอเอล)

การทดสอบจะครอบคลุมทักษะต่างๆ อย่างครบถ้วนและมีมาตรฐานที่ปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอจึงได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งสำหรับการสมัครงานและใช้เพื่อเรียนต่อ

การทดสอบจะแบ่งลำดับคะแนนออกเป็น 9 ระดับ เริ่มจาก 1 คือไม่สามารถใช้ได้เลย และ 9 คือการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างดีเลิศ ปกติแล้วเกณฑ์คะแนนจะอยู่ในช่วง 6.5 – 7

ค่าสอบ: แบ่งออกเป็นดังนี้

IELTS Academic / IELTS General Training ค่าสอบ 6,900 บาท

IELTS UKVI ค่าสอบ 7,710 บาท

IELTS Life Skills A1 / IELTS Life Skills B1 ค่าสอบ 5,800 บาท

 

SAT หรือ SAT Reasoning Test (เอส เอ ที)

ได้รับการพัฒนาโดย College Board ซึ่งองค์การองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐอเมริกา ผลคะแนนนี้ได้รับความนิยมในการใช้เพื่อรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่สถาบันของสหรัฐอเมริกา

ค่าสอบ: 105 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,500 บาท)

 

BMAT หรือ BioMedical Admissions Test (บี-แมท)

เป็นข้อสอบเฉพาะทางสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์, สัตวแพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ จัดทำโดย Cambridge Assessment แห่งสหราชอาณาจักร

ใช้เวลาในการทำข้อสอบทั้งหมด 2 ชั่วโมง เพื่อวัดระดับทักษะการคิด ความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการสื่อสาร

ค่าสอบ: เริ่มต้นที่ 6,950 บาท (หากสมัครเลย กำหนด จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 2,000 บาท)

 

จะเห็นได้ว่าข้อสอบแต่ละแบบก็มีจุดประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามด้วยความที่มีราคาสอบค่อนข้างสูง การเตรียมความพร้อมเพื่อพิชิตคะแนนในฝันจึงเป็นเรื่องจำเป็น

ใครที่วางแผนเรียนต่อ สมัครงาน หรือต้องใช้คะแนนเหล่านี้ อย่าลืมเตรียมความพร้อมกันก่อนลงสนามจริงนะคะ :>

 

ที่มา:

sanook.com

th.jobsdb.com

การศึกษาไทย.com

chulatutor.com

ร่วมแสดงความคิดเห็น...

SHARE

ดูเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ...