บางครั้งท่ามกลางหลักไวยากรณ์ที่ชวนให้สับสน ‘The Future Tense‘ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบเหตุการณ์ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด
เพราะนอกจากจะถูกนำมาอธิบายถึงบางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า หลักการของไวยากรณ์นี้ยังถูกนำไปใช้ในรูปแบบอื่นๆ ได้อย่างน่าสนใจ
ตามที่ระบุไว้ในหนังสือ ‘Basic English Grammar‘ เขียนโดย Anne Seaton & Y. H. Mew มีกลวิธีสุดเจ๋งอยู่ 3 รูปแบบที่สามารถกล่าวถึง “อนาคต” ได้ดังนี้
#1 การใช้ The Future Tense
โดยปกติแล้วเมื่อพูดถึง ‘อนาคต’ จะใช้คำกริยาอย่าง ‘Shall และ Will’ เป็นกริยาช่วย (auxiliary verbs) เพื่อสร้างประโยคในรูป Future Tense ให้สมบูรณ์แบบ ตัวอย่างดังนี้
– We shall play a game of chess after lunch.
– You will be sick if you eat too much.
– I hope it won’t rain tomorrow.
– Sharon is ill. She will not be at the party.
– You will enjoy visiting New Zealand.
– Dad will be back for dinner.
– He will make lots of friends at his new school.
กฎการใช้ Shall และ Will เบื้องต้น
– ใช้ Shall และ Will กับ I และ We
– ใช้ Will กับ You, He, She, It และ They
สามารถดูการใช้ในรูปแบบต่างๆ ตามตางรางด้านล่างนี้
และในรูปตัวย่อ ดังนี้
#2 การใช้ ‘Is/Am/Are + Going to’
นอกเหนือจาก Shall และ Will แล้ว ก็สามารถใช้ ‘Is/Am/Are + Going to’ เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้เช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่ได้ตัดสินใจหรือวางแผนไว้แล้ว ตัวอย่างดังนี้
– We are going to bake a cake this afternoon.
– I’m sure Mom and Dad are going to be proud of me.
– When are you going to clean your room?
– They are going to wash the car for Dad.
– It is going to get dark very soon.
#3 การใช้ The Simple Present Tense
และอีกวิธีคือการใช้ The Simple Present Tense (S. + V1 [-s/-es]) เพื่อพูดถึงสิ่งเป็นจริง และจัดเตรียมไว้แล้วสำหรับอนาคต ตัวอย่างเช่น
– The new supermarket opens tomorrow.
– James moves to the second grade next year.
– The new school year starts on Monday.
– Next month I go to summer camp.
– We have a history test next week.
เห็นไหมคะว่าไม่ได้ยากเลย หากเราเข้าใจหลักการ แถมยังสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังเขียนเรียงความเพื่อขอทุนการศึกษา หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ :)