แม้ว่าสถานการณ์ในช่วงนี้จะยังไม่เอื้อต่อการออกเดินทาง ทว่าในหลายประเทศก็เริ่มเปิดรับนักศึกษาต่างชาติให้กลับเข้ามาเรียนต่อ ทั้งยังกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกอื่นๆ ให้อย่างรอบด้าน
สหราชอาณาจักรเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจากขณะนี้สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ได้ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งยังมีความความคืบหน้าในด้านการฉีดวัคซีนให้กับพลเมืองจึงทำให้ทางหน่วยงานและภาครัฐหันมาให้สนับสนุนนโยบายการเปิดรับนักศึกษาต่างชาติ
สำหรับใครที่กำลังวางแผนเตรียมตัวไปเรียนต่อยังประเทศอังกฤษในขณะนี้ มาอัปเดทข้อมูลที่สำคัญเพื่อความพร้อมในการเดินทางกันดีกว่าค่ะ
*ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากเว็บไซต์ GOV.UK ประเทศอังกฤษ*
ข้อกำหนดสำหรับสถาบันการศึกษาในประเทศอังกฤษ
– นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยทุกคนสามารถกลับไปเรียนในสถานศึกษา (In-Person) ได้
*ตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยโดยตรงว่ามีนโยบายเรื่องการใส่หน้ากาก (Face Covering) หรือการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างไร
– นักเรียนไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากในโรงเรียน
ระบบการจัดกลุ่มประเทศตามความเสี่ยง (Traffic Light System) ของประเทศอังกฤษ
รัฐบาลของประเทศอังกฤษได้นำเอา Traffic Light System (ระบบไฟจราจร) หรือการจัดกลุ่มประเทศตามความเสี่ยงโควิดในการเดินทางเข้าประเทศมาใช้
โดยจะแบ่งเป็นระดับ สีแดง-Red (ความเสี่ยงสูง), สีเหลือง-Amber (ความเสี่ยงปานกลาง) และ สีเขียว-Green (ความเสี่ยงต่ำ)
ข้อมูลอัปเดตของรายชื่อประเทศที่อยู่ใน Red List, Amber List และ Green List สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ GOV.UK (ข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุขและบริการสังคม)
โดยจะมีการตรวจสอบและอัปเดตรายชื่อประเทศทุกๆ 3 สัปดาห์ ประเทศต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงระดับความเสี่ยงได้หลังการประเมินของรัฐบาลอังกฤษ
ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2021 ประเทศไทยได้ถูกย้ายจากกลุ่
ข้อกำหนดสำหรับผู้ที่
ก่อนเดินทางมายังประเทศอังกฤษ ผู้เดินทางจะต้อง:
- มีผลตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบ (ไม่มีเชื้อ) ไม่เกิน 3 วันก่อนเดินทาง
- จองและชำระเงินค่าโรงแรมสถานที่
กักตัว (Quarantine hotel) โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ £2,285 ต่อคน - จองและชำระเงินค่าตรวจโควิด-19
สำหรับตรวจหาเชื้อหลังเดิ นทางมาถึงประเทศอังกฤษแล้ว - กรอกแบบฟอร์ม Passenger Locator Form
*เที่ยวบินตรงจากประเทศกลุ่
เมื่อเดินทางมาถึงประเทศอังกฤษ ผู้เดินทางจะต้อง:
- ผู้เดินทางจะต้องเดินทางไปยั
งโรงแรมสถานที่กักตัวโดยรถบริ การรับส่ง ห้ามเดินทางโดยระบบขนส่ งสาธารณะหรือรถส่วนตัวเด็ดขาด - ทำการกักตัวที่โรงแรมเป็นเวลา 10 วัน
- ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19ในวั
นที่ 2 และวันที่ 8 ของการกักตัว - สามารถสิ้นสุดการกักตัวได้ เมื่อผลการตรวจหาเชื้อในวันที่ 8 ออกมาเป็นลบ ไม่มีอาการของโควิด-19 ในวันที่ 9 หรือวันที่ 10 และกักตัวครบ 10 วัน (วันที่มาถึงนับเป็นวันที่ 0)
- หลังจากกักตัวครบ 10 วันแล้ว รถบริการจะรับจากโรงแรมเพื่
อไปส่งที่สนามบินเดิม
*ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วจากประเทศไทยก็ยังต้
ข้อควรรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศอังกฤษ
– ไม่มีกฎหมายบังคับให้ใส่หน้ากาก (Face Covering) แต่รัฐบาลยัง “คาดหวังและแนะนำ” ให้ใส่หน้ากากในที่สาธารณะซึ่งเป็นบริเวณปิดและมีผู้คนจำนวนมาก
**ผู้ให้บริการคมนาคมหลายแห่งยังกำหนดให้ใส่หน้ากากระหว่างเดินทาง เช่น TFL (Transport for London) กำหนดให้ต้องใส่หน้ากากขณะเดินทางโดยใช้บริการรถไฟใต้ดินและรถบัสของ TFL ในลอนดอน
– ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ผับ สามารถให้บริการในอาคารได้ โดยไม่มีกฎหมายบังคับให้ใส่หน้ากาก
– ร้านค้าและศูนย์การค้า สถานที่ท่องเที่ยว เช่น พิพิธภัณฑ์ เปิดให้บริการได้
– บริการที่พัก เช่น โรงแรม โฮสเทล และ B&B เปิดให้บริการได้
– ไม่มีข้อจำกัดจำนวนคนสำหรับการจัดงานหรือกิจกรรม เช่น คอนเสิร์ตหรือกีฬาต่างๆ เช่น ฟุตบอล
– ไม่มีข้อจำกัดจำนวนคนที่สามารถพบปะกันได้
Tips:
– ทำเช็คลิสต์ของใช้ที่จำเป็นและเตรียมตัวให้พร้อม เนื่องจากราคาสินค้าในต่างประเทศหลายอย่างมีราคาแพงกว่าในประเทศไทย
– แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแต่ก็ไม่ควรวางใจ แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยและพกเจลแอลกอฮอล์สำหรับพกพาเสมอ
– รัฐบาลอังกฤษมีนโยบายฉีดวัคซีนให้ประชากรที่มีอายุ 16 ปีขึ้น รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ที่ลงทะเบียนกับ National Health Service (NHS) ผ่านสถานบริการสุขภาพ GP (General Practitioner) ดังนั้น เมื่อเดินทางมาถึงอังกฤษแล้วก็รีบลงทะเบียนกันนะคะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ NHS
– มหาวิทยาลัยบางแห่งมีนโยบายช่วยเหลือค่าใช้จ่ายระหว่างการกักตัวสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่จะเดินทางมาเรียนในเดือนกันยายน 2021 นี้ อย่าลืมติดตามเว็บไซต์ของโรงเรียน/มหาวิทยาลัย หรือติดต่อทางสถาบันการศึกษาเพื่อขอรับข้อมูลล่าสุดนะคะ
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่เชื่อได้ว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้ที่อยู่ในสหราชอาณาจักร รวมถึงผู้ที่กำลังเตรียมตัวเดินทาง อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นหนึ่งในวิธีที่ยอดเยี่ยมในการดูแลรักษาตัวเองให้ปลอดภัยจากสถานการณ์ที่ทั่วโลกต่างต่างเผชิญในขณะนี้ สู้ๆ นะคะทุกคน :)
ที่มา: twinkl
