ถุงยางอนามัยเป็นอีกหนึ่งวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูง โดยผู้ที่ใช้ถุงยางอนามัยจะมีอัตราการตั้งครรภ์อยู่ที่ 2% – 18% ต่อปี
ถุงยางอนามัยเองก็เกิดขึ้นและมีประวัติมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อนที่จะถูกผลิตขึ้นอย่างจริงจังราวปี 1855
ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นคนสมัยโบราณได้ใช้ผิวหนังของสัตว์มาเป็นวิธีท้องถิ่นในการคุมกำเนิด แต่มันก็ไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
บอกเลยว่าถุงยางอนามัยนั้นก็มาไกลมากเช่นกัน ไม่เพียงแต่ในด้านอารยธรรมแต่ยังรวมไปถึงการปรับปรุงคุณภาพ ประสิทธิภาพ และด้านบรรจุภัณฑ์
มาร่วมย้อนเวลาดูว่าถุงยางนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกันเถอะ ^^’
ปี 1916: Youngs Rubber Corp. ได้รับการอนุมัติเครื่องหมายการค้าสำหรับถุงยาง “Trojan”
ปี 1937: องค์การอาหารและยาจัดถุงยางอนามัยอยู่ในประเภทยา โดยต้องถูกทดสอบก่อนวางจำหน่าย
ปี 1940: ภาพทดสอบถุงยาง Trojan ในยุค 40
ปี 1945: ถุงยาง Trojan รุ่น Shadows พร้อมคำโฆษณาว่าบางแต่ดี
ปี 1950: ถุงยาง Trojan รุ่น Enz
ถุงยาง Trojan-Enz ในปัจจุบัน (ปี 2020) ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างกันสุดๆ
ปี 1987: เป็นช่วงวิกฤตโรคเอดส์ จึงทำให้ Davin Wedel ผลิตถุงยาง Global Protection ขึ้นสำหรับนักศึกษาที่ Tufts
ปี 1988: ถุงยาง Happy Jumbo Condom Matchbook
ปี 1992: Global Protection Corp. ได้พัฒนาถุงยางอนามัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปี 1995: Global Protection ร่วมมือกับวง Purple Rain Coats ผลิตถุงยาง
ปี 1997: อีกหนึ่งการร่วมมือผลิตถุงยางของ Global Protection Corp. กับวง U2
ปี 2002: Global Protection เปิดตัวถุงยางอนามัยรุ่นใหม่ “Pleasure Plus”
ปี 2003: Global Protection เปิดตัวถุงยาง ONE ที่มาในบรรจุภัณฑ์แบบวงกลม
ปี 2008: ถุงยางอนามัย SKYN เปิดตัวแล้วหลังจากพัฒนามาร่วมสิบปี สำหรับผู้ที่แพ้ถุงยางปกติ
ปี 2010: Trojan เปิดตัวถุงยาง BareSkin ถุงยางอนามัยที่บางลงถึง 50%
ปี 2014: Sustain เปิดตัวถุงยางอนามัยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Fair Trade และมีสารเคมีและโปรตีนน้อย
ปี 2016: HEX เปิดตัว Lelo สู่ตลาดหลังจากพัฒนามาเจ็ดปี มีลักษณะหกเหลี่ยม มีความยืดหยุ่นและพื้นผิวเนียนเรียบ
ปี 2017: ONE เปิดตัว myONE Perfect Fit ถุงยางอนามัยที่ผู้ใช้สามารถผลิตขนาดได้เอง
ปี 2020: Trojan เปิดตัวถุงยางอนามัย G-Spot ช่วยกระตุ้นภายในสรีระผู้หญิงได้ง่ายขึ้น
ถุงยางอนามัยนั้นมีมาแต่ยาวนาน และมีประโยชน์อย่างมากทั้งด้านการป้องกันโรคติดต่อ และป้องกันการตั้งครรภ์ เห็นได้ชัดว่าในปัจจุบันถุงยางถูกพัฒนาไปมาก เพราะฉะนั้นสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการตามที่แต่ละคนสะดวกเลยล่ะ กันไว้ย่อมดีกว่าแก้อยู่แล้ว : )
ที่มา: cosmopolitan