ในยุคนี้การส่งบุตรหลานเข้าเรียนที่ “โรงเรียนนานาชาติ” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่พ่อแม่สนใจ อาจจะเป็นเพราะจุดแข็งของโรงเรียนที่หนีไม่พ้นภาษาอังกฤษ กับระบบการเรียนการสอนที่อ้างอิงหลักสูตรจากต่างประเทศ และยังมีเรื่องของสังคมหลายเชื้อชาติ
คุณพ่อคุณแม่หลายคนคาดหวังว่าโรงเรียนนานาชาติจะสอนให้เด็กหัดคิดได้ด้วยตัวเอง ไม่ท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง และได้ภาษาอังกฤษที่ดี เพื่อที่ลูกรักจะได้ประสบความสำเร็จในอนาคต แต่คงจะยังมีคุณพ่อคุณแม่บางท่านที่ลังเลใจ ไม่แน่ใจว่าโรงเรียนนานาชาติจะเหมาะกับลูกเราไหม
เราจึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับ 4 สิ่งที่ควรใช้พิจารณาถ้าอยากส่งบุตรหลานเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติมาเป็นแนวทางสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ดังนี้
ระบบการเรียนและครูผู้สอน
โรงเรียนนานาชาติแต่ละที่มีระบบการเรียนที่แตกต่างกันออกไป หลายโรงเรียนอ้างอิงหลักสูตรจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อเมริกัน หรือออสเตรเลีย คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจถึงรายละเอียดของหลักสูตรแต่ละแบบ เพื่อเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมให้กับลูก สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างได้ที่ตารางด้านล่างนี้
ครูผู้สอนก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาให้ดีว่ามาตรฐานการสอนของครูแต่ละโรงเรียนเป็นเช่นไร คุณครูจบหลักสูตรการสอนมาจากไหน มีทัศนคติในการสอนวิชาการ และการอบรมเด็กนักเรียนอย่างไรบ้าง
ค่าใช้จ่าย
เป็นที่แน่นอนว่าการเรียนในโรงเรียนนานาชาติจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าโรงเรียนธรรมดา บางแห่งค่าใช้จ่ายพุ่งขึ้นเป็นแสนต่อปี เพราะบางที่ก็เปรียบเหมือนเนอสเซอรี่ไปในตัวเลยทีเดียว จะคิดแค่ว่าหาโรงเรียนที่ค่าเทอมถูกที่สุดไปก่อน อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าเรียนโรงเรียนอินเตอร์ แบบนี้ไม่ปลอดภัยนะ หากต้องการเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติจริงๆ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความพร้อมในจุดนี้ด้วย ควรมีการสำรองเงินที่ดี เพื่อที่จะไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นในครอบครัว
ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติในไทย ปี 2662-2663
เราขอนำเสนอค่าเทอมประจำปีการศึกษา 2662-2663 ของโรงเรียนนานาชาติในไทยที่มีนักเรียนเข้าเรียนกันมากที่สุด 5 อันดับ ดังนี้
โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ (International School Bangkok : ISB)
โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี (Ruamrudee International School : RIS)
โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา (Bangkok Patana School : BPS)
โรงเรียนนานาชาตินิสท์ (NIST International School)
โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ (Harrow International School : HIS)
สังคมในโรงเรียน
คุณพ่อคุณแม่ต้องยอมรับว่าเมื่อส่งลูกเข้าโรงเรียนนานาชาติแล้ว ลูกจะต้องซึมซับวัฒนธรรมที่หลากหลายจากประเทศอื่นๆ เข้ามาด้วย ถ้าผู้ใหญ่ในบ้านไม่ชอบก็อาจจะมีปัญหา ดังนั้นถ้าทางครอบครัวยังอยากให้บุตรหลานคงความเป็นไทยไว้ ก็อาจจะต้องให้ความสำคัญในการเติมเต็มส่วนนี้ และควรทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ในบ้านว่าลูกอาจจะมีนิสัยที่แปลกไปนิดหน่อยตามวัฒนธรรมที่เขาซึมซับมาจากการอยู่ร่วมกันหลากหลายชาติในโรงเรียน
ตัวลูกเอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณพ่อคุณแม่จะใช้พิจารณาก็คือตัวลูกเอง ต้องประเมินว่าเค้ามีความพร้อมแค่ไหนกับการจะไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ เด็กควรมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่เพียงพอ จะได้ไม่รู้สึกเครียดและเป็นทุกข์กับการเรียนภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการย้ายโรงเรียน เด็กอาจจะเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบ และรู้สึกว่าต้องปรับตัวหนักเกินไป บางคนอาจถูก Bullying จากเพื่อนใหม่ด้วย
ความจริงแล้วไม่ว่าจะส่งลูกรักเข้าเรียนในโรงเรียนประเภทไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้เขาได้เรียนและเล่นอย่างมีความสุข เต็มไปด้วยความใฝ่รู้ เพราะการได้เรียนอย่างมีความสุขนั้น จะมีส่วนทำให้พวกเขาเติบโตและนำนิสัยใฝ่รู้นี้พัฒนาตัวเองเพื่อความสำเร็จในอนาคต
ที่มา: Story Motherhood