ประโยชน์ของห้องสมุดนั้นมีมากมาย และหนึ่งในนั้นคือการสร้างนิสัยการรักการอ่านให้กับเด็กๆ
งานวิจัยใหม่ยังพบว่าการเติบโตขึ้นมาในบ้านที่มีหนังสือมากๆ จะเพิ่มความรู้และความสามารถทางคณิตศาสตร์มากขึ้นเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
งานวิจัยชื่อว่า “Scholarly culture: How books in adolescence enhance adult literacy, numeracy and technology skills in 31 societies.” เผยว่าจำนวนเฉลี่ยของหนังสือต่อหนึ่งครอบครัวในสหรัฐอเมริกานั้นตกอยู่ที่ 114 เล่ม
ทีมวิจัยเองจึงได้ทำการศึกษาผู้ใหญ่ 160,000 คนในช่วงปี 2011 ถึง 2015 พบว่าการมีหนังสือ 80 เล่มขึ้นไปในบ้าน เป็นผลให้ผู้ใหญ่มีทักษะด้านการคำนวณและเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล (ICT) ในระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การศึกษานำโดยดร. Joanna Sikora จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย พบว่าในครอบครัวที่มีหนังสือราว 80 – 350 เล่ม จะทำให้ลูกๆ มีพัฒนาการด้านการเรียนหนังสือ การคำนวน และการอ่านออกเขียนได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น สังคม วัฒนธรรม และประเทศที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การมีหนังสือมากกว่า 80 เล่มในบ้านนั้นแสดงให้เห็นถึงประโยชน์หลักๆ อยู่ 2 ด้านด้วยกันนั่นคือผลกระทบของการเติบโตในสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ส่งเสริมความรู้
เพราะการอ่านหนังสือของวัยรุ่นเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมความรู้ความสามารถในระยะยาว
อย่างที่สองคือการอ่านมักจะช่วยให้บุคคลพัฒนาทักษะในการศึกษา นอกจากนี้ครอบครัวที่รักการอ่านหนังสือจนกลายเป็นกิจวัตรยังจะช่วยสร้างนิสัยในการเรียนรู้ เอื้อต่อการเรียนและการทำงานในอนาคต
กลายเป็นรากฐานนำไปสู่การแสวงหาความรู้ตลอดชีวิต
เพราะฉะนั้น การมีหนังสือในบ้านเป็นอีกหนึ่งแนวทางให้กับครอบครัวที่มีฐานะยากจนที่ไม่สามารถให้การศึกษาสูงๆ สำหรับลูกๆ ได้
อย่างน้อยการมีหนังสืออยู่รอบบ้านสามารถยกระดับทักษะการอ่านและทางด้านคณิตศาสตร์ได้อย่างมาก และยังประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ที่มา: bigthink