ในขณะที่โลกต้องเผชิญกับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติเช่นปัจจุบันนี้ และในหลายพื้นที่ก็กำลังขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ในขณะเดียวกันนี้เรื่องราวของหนุ่มวัย 26 ปี ที่ทุกคนกำลังจะได้อ่านตอไปนี้อาจสร้างความหวังให้กับทุกคน
รายงานล่าสุด มีประชากรประมาณ 844 ล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดได้ และในบางพื้นที่ของอินเดียก็ได้ชื่อว่าขาดแคลนน้ำอย่างหนักเช่นกัน แต่โชคดีที่หนุ่มวัย 26 ปี อย่าง Ramveer Tanwar คนนี้ไม่เพิกเฉยต่อปัญหาเหล่านั้น
ด้วยความที่ต้องการช่วยเหลือหมู่บ้าน และคนที่อาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านเกิด Ramveer จึงมุ่นมั่นที่จะคืนชีวิตให้กับแหล่งน้ำในท้องถิ่น
วันหนึ่ง Ramveer เริ่มตระหนักว่าแหล่งน้ำในหมู่บ้านที่เขาและเพื่อนๆ เคยไปเล่นเมื่อตอนยังเป็นเด็กเริ่มหายไป หลังจากที่ชาวบ้านนำขยะและสารปนเปื้อนมาทิ้งไว้ นั่นทำให้เขาตัดสินใจว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ขั้นแรก Ramveer เริ่มสอนเด็กๆ ในหมู่บ้านให้รู้ถึงความสำคัญของน้ำสะอาด และให้ความรู้ว่าพวกเขาควรทำอย่างไรเพื่อรักษาเเหล่งน้ำเหล่านั้นเอาไว้ เขาให้เด็กๆ ไปเตือนผู้ปกครองเกี่ยวกับปัญหามลพิษทางน้ำ แต่น่าเศร้าที่ไม่มีใครสนใจ เพราะชาวบ้านยังคงเชื่อว่าจะมีน้ำไหลออกมาอยู่เสมอ
เมื่อใช้เด็กไม่ได้ผล Ramveer จึงตัดสินใจเดินหน้าเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาไปตามบ้านเพื่อชี้แจงปัญหาเกี่ยวกับน้ำ จัดอบรมในวันอาทิตย์แล้วให้เด็กๆ ชวนผู้ปกครองมารับฟังจนในที่สุด ชาวบ้านก็เริ่มเข้าใจและตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ
ในปี 2015 Ramveer และทีมอาสาสมัครนักเรียนของเขารวมถึงเหล่าผู้ปกครอง ช่วยกันเอาขยะทั้งหมดออกจากแหล่งน้ำแห่งนี้
พวกเขาไม่เพียงทำความสะอาดเท่านั้น แต่ยังปลูกต้นไม้รอบๆ เพื่อเพิ่มความร่มรื่น ต่อมา พวกเขาได้เชิญหน่วยงานท้องถิ่นให้เข้ามาดูการฟื้นฟูแหล่งน้ำที่กำลังไปได้สวยนี้
เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นก็มีชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่นๆ เดินทางมาหา Ramveer เพื่อขอความช่วยเหลือในการฟื้นฟูทะเลสาบในท้องถิ่นของพวกเขา
ด้วยความช่วยเหลือของอาสาสมัครและคนอื่นๆ ทะเลสาบและแหล่งน้ำอีกหลายสิบแห่งได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาดีดังเดิม
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำความสะอาดแหล่งน้ำคือการป้องกันมลพิษอื่นๆ เมื่อน้ำได้รับการทำความสะอาดแล้ว ทีมงานจะขุดหลุมแยกเพื่อเก็บขยะ จากนั้นพวกเขาก็ติดตั้งระบบการกรองสองชั้น : แผ่นกรองที่ทำจากไม้กระดานและแผ่นหญ้าเพื่อป้องกันเศษขยะชิ้นใหญ่และเล็กลงไม่ให้ลงไปในน้ำในอนาคต
เรื่องราวนี้ได้แสดงให้เราเห็นถึงพลังแห่งความร่วมมือ ที่เกิดจากการตระหนักรู้ ในประเทศเราเองก็เช่นกัน หากมีคนเริ่มตระหนักในปัญหาและพร้อมจะให้ความร่วมมือในการแก้ไข สิ่งต่างๆ ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ :)
ที่มา: brightside