กินอาหารอย่างถูกต้องก็แล้ว ออกกำลังกายเป็นประจำก็แล้ว แต่ทำไมยังรู้สึกเหมือนน้ำหนักยังไม่ลดเสียที?? แต่แน่ใจได้อย่างไรว่าเราไม่ได้ทำอะไรพลาดไป ในความเป็นจริงมันอาจมีอยู่หนึ่งจุดเล็กๆ ที่เรายังทำไม่เต็มที่ หรือร่างกายสะสมความเครียดไว้มากเกินไป หรืออาจจะมาจากสาเหตุต่อไปนี้ที่ทำให้การลดน้ำหนักของคุณไม่สัมฤทธิผลเสียที
1. เพราะคุณทานอาหารผิดประเภท
หลายคนมักคิดว่าอาหารที่ทานเข้าไปมีแคลอรี่ไม่สูงเท่าไหร่ ไม่น่าจะเป็นไรหรอก ซึ่งจริงๆ แล้วเราควรโฟกัสที่ว่าอาหารเหล่านี้ควรทานเพื่อให้เป็นแหล่งของพลังงานมากกว่า
และในวันที่คุณต้องออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน หรือเวทเทรนนิ่งให้เน้นทานพวกคาร์โบไฮเดรต ส่วนวันพักหรือวันที่ทำคาร์ดิโอเบาๆ ให้เน้นทานผัก เนื้อสัตว์ หรือไข่
2. ทานมากเกินไป
ในแง่ของการลดน้ำหนัก แคลอรี่ที่เราทานเข้าไปควรน้อยกว่าแคลลอรี่ที่ใช้ต่อวัน แต่ไม่ควรมานั่งนับแคลอรี่จนกังวล หรือชั่งน้ำหนักตัวทุกวัน เวลารับประทานอาหารก็ให้ทานช้าๆ และทานเพราะหิวจริงๆ ไม่ใช่กินจุบจิบ
3. ทำคาร์ดิโอมากเกินไป
คาร์ดิโอเป็นการออกกำลังกายที่ดี ช่วยในเรื่องการลดมวลไขมัน เสริมสร้างหัวใจให้แข็งแรง อย่างไรก็ตามการทำคาร์ดิโอมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ร่างกายของเราอาจจะใช้กล้ามเนื้อมาเป็นพลังงานแทนที่จะเป็นไขมัน ดังนั้นจึงควรทำคาร์ดิโออย่างพอเหมาะพอควร แค่วันละไม่เกิน 45 นาที – 1 ชั่วโมง
4. ไม่ยกน้ำหนักหรือออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง
เมื่อพูดถึงการลดไขมันสิ่งหนึ่งที่ควรทำคือการออกกำลังกายแบบเพิ่มแรงต้าน หรือการยกเวท ซึ่งการสร้างกล้ามเนื้อคือการเพิ่มระบบเผาผลาญร่างกาย ทำให้การเบิร์นไขมันดีขึ้น ซึ่งสามารถทำควบคู่ไปกับการวิ่ง หรือการปั่นจักรยานได้
5. ไม่ได้ตระหนักว่าทานอะไรเข้าไปบ้าง
การตระหนักรู้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลดน้ำหนัก หลายคนไม่ค่อยใส่ใจกับสิ่งที่ทานไปในแต่ละวัน ซึ่งจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่จดบันทึกรายการอาหารหรือถ่ายรูปมื้ออาหารที่กินเข้าไปจะช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ทำ
6. บริโภคโปรตีนไม่มากพอ
โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับการลดน้ำหนัก การรับประทานโปรตีน 25-30% ของแคลอรี่ จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ประมาณ 80-100 แคลอรี่ต่อวัน นอกจากนี้ยังช่วยลดความอยากอาหาร หรืออาการอยากของว่างได้ด้วย
7. นอนหลับไม่สนิท
การนอนหลับให้สนิทเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับสุขภาพกายและใจ ตลอดจนช่วยเรื่องน้ำหนักของคุณด้วย จากการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการนอนหลับไม่เต็มอิ่มเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดสำหรับโรคอ้วน ผู้ใหญ่และเด็กที่นอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่เต็มอิ่มมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้น 55% และ 89% ตามลำดับ
ที่นี้ก็รู้แล้วใช่มั้ยว่าทำไมการลดน้ำหนักของคุณถึงไม่สำเร็จดังใจหวังเสียที และหวังว่าสาเหตุเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการปรับปรุงพฤติกรรมการกิน และการออกกำลังให้ถูกต้อง และนำไปสู่การลดน้ำหนักได้อย่างที่ต้องการ
ที่มา: health , healthline