ปี 2020 จะกลายเป็นปีแห่งภาษา การเรียนรู้ภาษาที่สามจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากในปัจจุบัน นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว บนโลกของเรายังมีอีกหลายภาษาที่จำเป็น และมีประโยชน์กับทุกคนทั้งในด้านอาชีพ และการสื่อสารกับชาวต่างชาติ
7 ภาษาที่คุณควรเรียนรู้ไว้ เพื่อรับมือกับโลกอนาคตแห่งภาษาในปี 2020 ทางผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่ามีภาษาเหล่านี้ค่ะ…
1. ภาษาจีนกลาง
ภาษาจีนกลางจำเป็น และเป็นที่ต้องการมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในวงการธุรกิจ จะเห็นได้จากการที่บริษัทที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง จ้างพนักงานที่มีความสามารถด้านภาษาจีนกลางเพิ่มขึ้น 35% จากปีที่ผ่านมา
ใครที่อยากทำธุรกิจกับประเทศมหาอำนาจอย่างจีน จึงจำเป็นต้องศึกษาภาษาจีนให้คล่องแคล่ว
2. ภาษาเยอรมัน
ภาษาเยอรมันเป็นหนึ่งในภาษาที่จำเป็นของโลก โดยเฉพาะในสายอาชีพ อ้างอิงจากนักเศรษฐศาสตร์ที่ว่า ผู้ที่สามารถสื่อสารภาษาเยอรมันได้จะได้รับเงินโบนัสเพิ่มขึ้นมากกว่า เมื่อเทียบกับภาษาสเปน และฝรั่งเศส เทียบได้จากจำนวนเงินที่แสดงค่าภาษา ต่อโบนัสที่ได้ตามตารางด้านล่างนี้
3. ภาษาโปรตุเกส
ภาษาโปรตุเกสไม่ได้ถูกใช้สื่อสารแค่ภายในประเทศ แต่ยังมีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างประเทศบราซิลอีกด้วย
นอกจากนี้ภาษาโปรตุเกสยังเป็นภาษายอดนิยมอันดับที่ 5 ของโลก ใครที่อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เรียนรู้ภาษานี้ไว้ก็ไม่เสียหายนะ
4. ภาษาสเปน
ปัจจุบันนี้มีผู้ใช้ภาษาสเปนกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ภายในปี 2020 มีการคาดการณ์ว่า น่าจะมีผู้ใช้ภาษานี้เพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านคน
การเรียนรู้ภาษาสเปนจึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการทำงาน และการติดต่อสื่อสารกับต่างชาติ
5. ภาษาอาหรับ
โลกของเราในปัจจุบันนี้มีผู้ใช้ภาษาอาหรับกว่า 300 ล้านคนจาก 57 ประเทศ การเจาะตลาดแรงงานในแถบตะวันออกกลางจึงจำเป็นต้องศึกษาภาษาอาหรับ
ถึงแม้ภาษานี้จะเป็นหนึ่งในภาษาที่ยากที่สุด แต่ก็คุ้มค่ากับการเรียนรู้แน่นอน
6. ภาษารัสเซีย
รัสเซียเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ประเทศหนึ่งของโลก มีบทบาทสำคัญอย่างมากในเวทีเศรษฐกิจของยุโรปตอนกลาง ผู้ที่อยู่ในวงการธุรกิจ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติจึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้ภาษารัสเซียเพื่อประโยชน์ต่อความก้าวหน้าในอนาคต
7. ภาษาฮินดี
ภาษาฮินดีมีผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านคน ถ้าคุณสนใจที่จะเรียนต่อ หรือทำงานในประเทศอินเดีย คุณจึงควรเรียนรู้ภาษานี้เพื่อใช้ในการสื่อสาร การติดต่อธุรกิจ และการทำงานในอนาคต
ที่มา: www.lifehack.org
