นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทูตพาณิชย์ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ในสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันทำการตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทย ด้วยการแนะนำเข้าสู่เรือนจำในสหรัฐฯ ปรากฏว่า กลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทย เปรียบเสมือนสินค้ามูลค่าสูง ทดแทนการใช้จ่ายในรูปแบบเงินตรา อีกทั้งมีรสชาติถูกปาก และมีรสชาติที่หลากหลาย จึงกลายเป็นอาหารเลิศรสสำหรับนักโทษในเรือนจำของสหรัฐฯ อย่างมาก
“การส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้าไปเจาะตลาดในเรือนจำสหรัฐฯ นั้น เป็นไปตามตามยุทธศาสตร์ผลักดันการส่งออก ที่จะเน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม (นีช มาร์เก็ต) โดยเฉพาะระบบสถาบันต่าง ๆ ด้วยการเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับสถาบันนั้น ๆ เข้าไปเปิดตลาด ซึ่งขณะนี้ได้ศึกษาหลายแห่ง แต่ทั้งนี้หลังจากได้ศึกษาระบบเศรษฐกิจในเรือนจำสหรัฐฯ แล้ว พบว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น เป็นเงินตราสำคัญในเรือนจำ และมีการประยุกต์ใช้อย่างหลากหลาย เช่น นำมาบริโภค ใช้เป็นค่าตอบแทนในการบริการต่าง ๆ กระทั่งใช้แลกเปลี่ยน หรือซื้อสินค้าอื่น ๆ เช่น แปรงสีฟัน เสื้อผ้า ผลไม้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แบรนด์ที่ได้รับความนิยมนั้น คือ แบรนด์ที่เรือนจำนำเข้ามาจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งทำให้แบรนด์ดังกล่าว ครองตลาดในเรือนจำไปโดยปริยาย”
“สำหรับปัจจัยหลัก ที่ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยมในหมู่นักโทษ เป็นเพระคุณภาพ และรสชาติของอาหารในเรือนจำที่ไม่ถูกปากเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณอาหารของนักโทษ ที่ทำให้ไม่สามารถตอบสนองต่อจำนวนนักโทษที่เพิ่มขึ้นในเรือนจำของสหรัฐฯได้ ส่งผลให้นักโทษจำนวนมาก ต้องบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อทดแทนอาหารหลัก เพราะนอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีราคาถูก มีรสชาติที่ดีกว่าอาหารเรือนจำแล้ว ยังง่ายในการปรุง และให้พลังงานสูง อีกทั้งยังหาซื้อได้ที่ร้านค้าของเรือนจำอีกด้วย”
ข้อมูลจาก: เดลินิวส์
