ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ของแอฟริกาทำให้มันกลายเป้นหนึ่งในสถานที่ที่น่าทึ่งทึ่สุดในโลก
สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งโลกอาจยังไม่เคยเห็นและไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักซุกซ่อนตัวเองอยู่ที่นี่ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อมนุษย์ที่ได้ผันตัวเองให้กลายเป็นนักสำรวจได้พบกับพวกเขาเข้า ทำให้เราได้มีโอกาสพบเจอกับสัตว์มหัศจรรย์สายพันธุ์ที่หลากหลายขึ้น ไปพบกับโฉมหน้าของพวกเขาเหล่านี้กันเลยดีกว่า
10. ลิงโคบัสบัส
ลิงโคบัสบัสมีอยู่แพร่หลายในภูมิภาคแถบเส้นศูนย์สูตรของทวีปแอฟริกา ลิงเหล่านี้ไม่มีนิ้วหัวแม่มือ ซึ่งเกิดจากการปรับตัวที่ช่วยให้พวกมันเคลื่อนที่ไปรอบๆ ด้วยต้นไม้ได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้พวกมันยังสามารถลอยตัวกระโดดได้สูงถึง 15 เมตร และการมีหางที่ยาวช่วยปรับสมดุลในขณะที่เคลื่อนไหว เส้นขนบนหลังทำหน้าที่เป็นร่มชูชีพเพื่อชะลอตัวลงเมื่อพวกมันร่อนลงมายังพื้นดิน โดยธรรมชาติแล้วลิงพวกนี้มักมีสีดำและสีขาว อาศัยอยู่ในป่าปิดสนิท ป่าชายฝั่งทะเล ป่าภูเขา ป่าโพรงและไม่ค่อยลงมาจากต้นไม้
9. นกกระสาปากพลั่ว
คาดกันว่าชื่อนี้ได้มาจากปากที่ใหญ่เมื่อโตเต็มที่มันสามารถมีความสูงได้ถึง 1.5เมตรและความกว้างถึง 1.2 เมตร นอกจากนี้รูปลักษณ์ของมันยังชวนให้นึกถึงนกโบราณที่หลงมาจากยุคประวัติศาสตร์
นกพวกนี้มักอาศัยอยู่ในเขตร้อนชื้น หนองบึง และพื้นที่ชุ่มน้ำในแอฟริกาตะวันออกจากใต้ซูดานกับแซมเบีย น่าเสียดายที่มันเป็นสายพันธุ์ที่อ่อนแอและเหลือเพียง 8,000 ตัวเท่านั้น สถานที่ที่ดีที่สุดที่จะสามารถพบนกชนิดนี้ได้ คือพื้นที่ชุ่มน้ำในแซมเบีย
8. ฮันนี่แบดเจอร์
นักล่าหน้าแบ้วที่มักจะลวงเหยื่อด้วยขนาดตัว พวกมันสามารถซุ่มโจมตีได้แต่สิงโตยันมนุษย์ แถมยังชื่นชอบการต่อสู้เอามากๆ ด้วย
คมเขี้ยวของเจ้าฮันนี่เเบดเจอร์นั้นแข็งแรงและความอดทนที่พวกมันมีทำให้ได้เปรียบในการต่อสู้ที่ยาวนานแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าแต่มันก็สามารถล้มศัตรูที่อ่อนแรงลงได้สบาย
ด้วยความที่ร่างกายมีความอดทนต่อทุกสภาพทำให้คุณสามารถพบฮันนี่แบดเจอร์ได้ทั่ว sub-Saharan Africa แม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์กินเนื้อ แต่ก็มีสัญชาติญานในการหาน้ำผึ้งที่ยอดเยี่ยม ยังไม่รวมถึงวิธีการที่ใช้อุปกรณ์นอกจากมือเพื่อช่วยในการเก็บน้ำผึ้งอีกต่างหาก ว่ากันตามจริงแล้ว อาจพูดได้ว่าฮันนี่แบดเจอร์คือสัตว์ที่ฉลาดที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
7. งูพิษใบไม้
หนึ่งในนักล่าที่ไม่มีใครอยากเจอในเวลากลางคืนยามเมื่อต้องออกไปล่าสัตว์ พวกมันจะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพุ่มไม้ในป่าเขตร้อนของแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง
งูที่น่าทึ่งและเต็มไปด้วยสีสันสดใสนี้จะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่ออำพรางตัวเอง พวกมันมีดวงตาที่ใหญ่ผิดปกติ ศีรษะที่มีขนาดใหญ่กว่าคอและปกคลุมไปด้วยเกล็ดจนดูคล้ายกับมังกร พิษของมันร้ายแรงมากและยังไม่มียาถอนพิษ
6. อาย – อาย
อาย – อาย จัดเป็นลิงจำพวกหนึ่ที่มีสายพันธุ์เก่าแก่แม้ว่ารูปลักษณ์จะไม่เหมือนลิงเลยก็ตาม มันอาศัยอยู๋บนเกาะมาดากัสการ์ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ออกหาหินยามค่ำคืน มีดวงตาและหูขนาดใหญ่ โดยมามักอาศัยอยู่บนต้นไม้ในป่าฝนและไม่ค่อยจะออกมาให้ใครพบเจอบ่อยนัก
อาย – อายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพียงชนิดเดียวที่ใช้ระบบ echolocation โดยใช้คลื่นเสียงเพื่อกำหนดตำแหน่งของวัตถุในอวกาศเช่นเดียวกับค้างคาว นอกจากนี้มันยังใช้วิธีเอานิ้วเคาะและฟังเสียงแมลงใต้เปลืกไม้ในการหาอาหารอีกด้วย
5. Dik-Dik
เจ้าตาแป๋ว Dik-Dik นี้ เป็นสัตว์สายพันธุ์ใกล้เคียงกับเหล่าละมั่ง ที่ทั้งน่ารัก น่ากอด ด้วยความสูงเพียง 35 ซมนิดๆ และน้ำหนักแค่ 2 กิโลหน่อยๆ อาจทำให้มันตัวเล็กกว่าน้องหมาที่คุณเลี้ยงไว้ที่บ้านซะอีก!!
Dik-Dik อาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้งในภาคตะวันออกและแอฟริกากลางเช่น คองโก และด้วยความที่มักจะตกเป็นเหยื่อทำให้พวกมันมักอาศัยอยู่ตามที่สูง นอกจากนี้ Dik-Dik ยังไม่นิยมอยู่เป็นฝูง จะอยู่กันเป็นคู่ๆ และถึงแม้จะตัวเล็กแต่พวกมันว่างไวมาก ความเร็วในการวิ่งประมาณ 42 กม. / ชม. พวกมันจะวิ่งหนีเป็นรูปซิกแซกเมื่อถูกไล่ตอน และส่งเสียงผ่านจมูกขณะวิ่งที่ฟังดูคล้ายกับDik-Dik ทำให้มันถูกเรียกด้วยชื่อนี้
4. เม่นเทนเรค
เจ้าตัวเล็กที่น่ารักเหล่านี้อาศัยอยู่เฉพาะในป่าดิบชื้นและที่ราบลุ่มทางฝั่งตะวันออกของมาดากัสการ์ ร่างกายทั้งหมดจะปกคลุมไปด้วยหนามสีเหลืองซึ่งใช้เป็นที่อำพรางรวมทั้งการป้องกันภัย พวกมันมีจมูกยาวเและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ออกหากินทั้งกลางวันและกลางคืน
เม่เทนเรคจะใช้เสียงในการสื่อสารระหว่างกัน ซึ่งวิธีการสร้างเสียงจะคล้ายกับที่แมลงและพวกงูทำคือการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ให้ถูกันจนเกิดเสียง
3. โอคาพี
เจ้าตัวนี้อาจดูเหมือนมีใครพยายามเอาม้าและม้าลายมาต่อกันให้ลงตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นญาติกับยีราฟ
โอคาพีมักอาศัยอยู่ในเขตป่าฝน Ituri แถบสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกในปี 1900 นอกจานี้มันยังูกเรียกเล่นๆ ว่ายูนิคอร์นแห่งแอฟริกาอีกด้วย
โอคาพีจะสื่อสารกันผ่านเสียงและมีการพรางตัวที่ดีเยี่ยมในเขตป่าที่หนาแน่นแถมยังรักในความสันโดษ
2. หมูดิน
มันมีจมูกที่คล้ายหมู มีหูเหมือนกระต่าย และหางที่เหมือนจิงโจ้ รวมถึงลำตัวที่คล้ายกับลูกหมูตัวเล็กๆ ลิ้นของมันยาวถึง 30 ซม. สามารถกินมดได้ครั้งละถึง 100 ตัว และปลวกอีก 50,000 ในครั้งเดียว!!
กรงเล็บของพวกมันมีความแข็งแรงมาก แถมยังเป็นญาติกับช้างอีกด้วย หมูดินมักจะออกหากินตอนกลางคืน พบมากในแถบทะเลทรายซาฮารา ทุ่งหญ้า ป่าดิบ ป่าฝน พวกมันกินปลวกและมดเป็นอาหาร เมื่อพวกมันลี้ภัยจะใช้วิธีในการขุดดินเพื่อย้ายบ้าน ส่วนบ้านหลังเก่ามักจะกลายเป็นรังของสัตว์อื่นอย่างเช่นเม่น หรือแม้แต่เป็ด
1.ตัวนิ่ม
หนึ่งในสัตว์ที่ถูกมนุษย์ล่ามากที่สุดจนใกล้จะสูญพันธุ์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดอาวุธเกราะพวกนี้อาศัยอยู่ในป่าและทุ่งหญ้าสะวันนาของเขตร้อนในทวีปแอฟริกา โดยใช้กรงเล็บที่แหลมคมในการขุดหลุมใต้พุ่มไม้หนาแน่นเป็นที่หลบภัย และเมื่อถูกโจมตี ตัวนิ่มจะม้วนตัวให้กลมเพื่อเปิดเกล็ดเป็นอาวุธต่อสู้
นอกจากนี้ยังมีลิ้นขนาดใหญ่ที่ยาวถึง 40 ซม. พวกมันไม่มีฟัน อาหารสุดโปรดคือมดและปลวกที่จะถูกส่งไปยังกระเพาะอาหารซึ่งแข็งแรงมาก นอกจากนี้มันยังกินทรายและกรอดเพื่อช่วยย่อยอีกด้วย
ในโลกใบนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจและรูปลักษณ์แปลกตาอีกมากแอบหลบซ่อนจากมนุษย์และใช้ชีวิตดำเนินไปอย่างสงบ ในอนาคตข้างหน้าเราได้รู้ความลับของสิ่งที่ธรรมชาติสร้างไว้เพิ่มมากกว่านี้ก็ได้
ที่มา : www.bookallsafaris.com