ในบรรดาทุนของสหราชอาณาจักร Chevening คือทุนจากรัฐบาลอังกฤษที่นับเป็นทุนใหญ่ที่สุดและมีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากในแต่ละปีค่ะ
สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัว เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดรับสมัครในครั้งต่อไป วันนี้เราได้รวบรวมสรุปทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการสมัครทุนนี้มาให้แล้ว
ไทม์ไลน์การสมัคร
ทุน Chevening จะเริ่มมีการประชาสัมพันธ์เปิดรับสมัครช่วงราวๆ เดือนกันยายน และปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการประมาณพฤศจิกายนค่ะ
ในขั้นตอนนี้ ผู้สมัครจะต้องส่งใบสมัครออนไลน์พร้อมแนบ Essay 4 หัวข้อตามที่กำหนดไว้ และต้องระบุถึงมหาวิทยาลัยที่ตั้งใจจะสมัคร (จะสมัครไปพร้อมกัน หรือสมัครหลังจากนี้ก็ได้ค่ะ) ซึ่งมหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งที่เลือกนี้ไม่สามารถเปลี่ยนภายหลังได้นะคะ ดังนั้นอาจต้องเตรียมหาข้อมูลล่วงหน้าว่าเราอยากจะไปเรียนที่ไหน
** การพิจารณามหาวิทยาลัยนอกจากจะต้องดูคณะที่สอดคล้องกับสิ่งที่เราต้องการจะเรียนแล้ว เรื่องคะแนน IELTS ก็สำคัญเพราะแม้ว่าจะได้รับเลือกจาก Chevening แต่หากคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ที่สมัครเรียนมหาวิทยาลัยได้ก็อาจพลาดทุนอย่างน่าเสียดายค่ะ
หลังจากที่ยื่นเอกสารครบก็จะมีคณะกรรมการอิสระเป็นผู้พิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครในรอบแรก หากผ่านรอบนี้จะได้รับเชิญให้เข้ารอบสัมภาษณ์กับสถานทูตอังกฤษหรือคณะกรรมาธิการระดับสูงในประเทศของเราช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนเมษายนค่ะ
โดยมากในส่วนนี้จะเน้นถามถึงแรงจูงใจและเป้าหมายของผู้สมัครในการสมัครทุนรวมถึงแผนการที่วางไว้ในอนาคต และการได้รับทุน Chevening จะมีส่วนช่วยอย่างไรต่อแผนการเหล่านั้น (สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษนะคะ) ซึ่งการพิจารณาจะอิงจากคณะที่คุณสมัครเรียนและแนวทางของแต่ละคนค่ะ
หลังจากนั้น ประมาณมิถุนายนจะเริ่มมีการประกาศผลทุน หากได้รับเลือกแล้ว ระยะเวลา 1 เดือนหลังจากนี้ หากใครที่ยังไม่ได้รับการตอบรับการสมัครเรียนของ 1 ใน 3 มหาวิทยาลัยที่เลือกไว้ในตอนแรก ก็จะถือว่าหมดสิทธิ์รับทุนไปค่ะ
แปลง่ายๆ ว่าหลังประกาศผล 1 เดือน ต้องทำยังไงก็ได้ให้มีที่เรียนถึงจะได้รับทุนอย่างเป็นทางการค่ะ :)
ช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคมจะเป็นช่วงที่เริ่มเดินทางไปยังสหราชอาณาจักรเพื่อเรียนต่อกันแล้ว ถือเป็นการสิ้นสุดการสมัครทุนของปีนั้นๆ ค่ะ
คำแนะนำจากรุ่นพี่ : สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมตัวก่อนไปเรียนต่อ
1. อย่าลืมเคลียร์เรื่องเอกสารและวางแผนธุรกรรมการเงินให้ดี
เคสนี้มาจากน้องกุ้ย สุทธิมนัส ชินอัครพงศ์ นักเรียนทุน Chevening ปี 2023 ค่ะ
โดยน้องเล่าว่าตอนนั้นผ่อนคอนโดอยู่ และเมื่อได้ทุนทำให้ต้องลาออกจากงานแล้วทำเรื่องรีไฟแนนซ์ไม่ทัน (เนื่องจากทางบริษัทธุรกรรมประเมินว่าลาออกจากงานแล้ว น่าจะไม่สามารถชำระตามกำหนดได้) เลยเป็นเหตุให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มไปอีก 1 ปี ดังนั้นใครก็ตามที่วางแผนจะสมัครทุนหรือเรียนต่อต่างประเทศ อย่าลืมศึกษาข้อกำหนดหรือวางแผนในเรื่องเหล่านี้ให้ดีนะคะ
2. การขอ eSIM เพื่อให้สามารถใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศได้
สำหรับใครที่ใช้บัตรเครดิตและวางแผนจะเรียนต่อต่างประเทศ หนึ่งในเรื่องเล็กๆ ที่อาจทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่คือการที่ไม่สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์เดิมได้ในต่างแดน
เพราะหมายเลข OTP ที่จะส่งมายืนยันหลังการใช้งานบัตรเครดิตจะถูกแจ้งไปยังหมายเลขที่แจ้งไว้กับทางธนาคาร หากไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ก็จะถือเป็นเรื่องยุ่งยากมากเลยค่ะ
วิธีรับมือง่ายๆ คือ ให้ไปติดต่อเจ้าของค่ายที่เราใช้งานแล้วขอเปลี่ยนซิมธรรมดาให้เป็น eSIM เลือกการรับข้อความ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้ไม่ต้องกังวลแล้วค่ะ
นอกจากเรื่องเล็กๆ แต่สำคัญเหล่านี้แล้ว การศึกษาเมืองที่เราจะไปเรียนต่อ หรือการเตรียมความพร้อมอื่นๆ เช่น ยารักษาโรคประจำตัว และอื่นๆ ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ชีวิตราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้นของการเป็นนักศึกษาต่างชาติ
ใครมีประสบการณ์เหล่านี้อยากแบ่งปัน มาแชร์กันได้นะคะ :)