ประเทศเยอรมนี เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในฝันของนักเรียนไทยหลายๆคน เพราะขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ และที่สำคัญคนเยอรมันก็มีชื่อในเรื่องของความเป็นมิตร ไม่แพ้ประเทศไหนในโลกเลยล่ะ
คราวนี้เราเลยมีข้อมูลของค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อประเทศเยอรมนี ซึ่งจะแบ่งหลักๆเป็นค่าครองชีพ และค่าเรียนระดับปริญญาตรีกับปริญญาโท มาให้เพื่อนๆได้ศึกษาเป็นข้อมูลเลยนะครับ
ค่าครองชีพในประเทศเยอรมนี
เนื่องจากประเทศนี้ค่อนข้างรวย ค่าครองชีพเลยแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้านพอสมควร จะอยู่ที่ประมาณ 350-1,000 ยูโรต่อเดือน (ประมาณ 12,000-40,000 บาท) ซึ่งหลักๆก็จะเป็นค่าเช่าบ้านนั่นเอง โดยมีค่าใช้จ่ายๆอื่นๆอีกดังนี้
– ค่าที่พัก ประมาณ 8,000-10,000 บาท/เดือน
– ค่าอาหาร ประมาณ 6,500 บาท/เดือน
– ค่าเดินทาง ประมาณ 1,200 บาท/เดือน
– ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น โทรศัพท์ เสื้อผ้า ซื้อของใช้ส่วนตัว ท่องเที่ยว ประมาณ 3,500 บาท/เดือน
สำหรับคนไทยเราที่จะขอวีซ่าไปเรียนต่อประเทศเยอรมนีนั้น ทางสถานฑูตกำหนดว่าจะต้องสามารถแสดงหลักฐานทางการเงิน ที่รองรับค่าใช้จ่ายประมาณ 8,000 ยูโรต่อปีได้ เพราะฉะนั้นคงต้องเตรียมงบกันนิดนึงนะ
ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี
ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเรียนฟรี แต่ก็มีค่าธรรมเนียมอื่นๆ เช่น ค่าสมัคร รวมถึงค่าเหมาจ่ายเพื่อเป็นสวัสดิการนักศึกษา เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณเทอมละ 800 ยูโร (30,000 บาท) ซึ่งก็พอๆกับหลายสถาบันในเมืองไทยเรานั่นเอง ทำให้เป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีค่าเล่าเรียนถูกมาก หากเทียบกับประเทศยุโรปอื่นๆและสหรัฐอเมริกา
ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาโทและปริญญาเอก
การเรียนระดับปริญญาโทในประเทศเยอรมนี ถ้าจบปริญญาตรีแล้วต่อโท จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ก็มีค่าธรรมเนียมอื่นๆที่เก็บเพิ่มเข้ามาเหมือนระดับปริญญาตรี ส่วนระดับปริญญาเอกก็เช่นเดียวกัน แต่ค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้จะลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง
ทุนการศึกษาในประเทศเยอรมนี
ทุนการศึกษาในประเทศเยอรมนี ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือทุน DAAD: Deutscher Akademischer Austausch Dienst ซึ่งให้นักศึกษาต่างชาติไปเรียนต่อในประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ยังมีทุนอีกมากมายพอสมควร
นักศึกษาที่สนใจไปเรียนต่อสามารถลองค้นหาในเว็บข้อมูลทุนการศึกษาในไทยอย่างเช่นเว็บ WeGoInter.com ของเรา หรือเว็บทุนอื่นๆอย่าง www.ScholarShip.in.th ก็ได้เช่นกัน
ข้อมูลนี้คงจะช่วยคลายข้อสงสัยหลายอย่างให้กับคนที่จะไปเรียนต่อนะครับ แล้วถ้าใครมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็สามารถคอมเมนท์มาถามกันด้านล่าง หรือไปโพสต์ไว้ในแฟนเพจได้ แล้วเราจะมาเพิ่มเติมให้ และขอเป็นกำลังใจให้คนที่อยากจะเรียนต่อทุกๆคนเลยครับ ^^
ที่มา: topuniversities, ภาพจากเน็ต