ปัจจุบันการเดินทางไปทำงานยังต่างแดนไม่ใช่เรื่องยากเมื่อเทียบกับสมัยก่อน และเพื่อให้ไม่ต้องไปลุ้นตุ่มๆ ต่อมๆ ว่าจะโดนตรวจเจอจนต้องกลับประเทศเพราะเข้าไปทำงานอย่างพวกลักลอบ วันนี้เรามีข้อแนะนำดีๆ เพื่อเตรียมตัวไปทำงานกันได้อย่างถูกกฎหมายมาฝาก
วิธีที่จะสามารถไปทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย มี 5 วิธี นั่นคือ
บริษัทจัดหางานจัดส่งไป
บริษัทจัดหางานที่จดทะเบียนก็อาจทำผิดกฎหมายได้อย่าเชื่อใจง่ายๆ บริษัทจัดหางานที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ตรวจเช็คได้ดังนี้
– ต้องแสดงใบอนุญาตการจดทะเบียนต่อกรมการจัดหางาน ไว้ในที่เปิดเผยและเห็นชัด ณ สำนักงานที่ได้รับอนุญาต
– ต้องจดทะเบียนลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางานที่ทำงานให้บริษัทไม่ใช้สายหรือเป็นนายหน้าเถื่อน
– เรียกเก็บค่าหัวตามกฎหมายและออกใบเสร็จรับเงินให้คนหางานไว้เป็นหลักฐาน
– เรียกเก็บเงินล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วันก่อนเดินทาง ถ้าไม่ส่งไปทำงานตามกำหนด ต้องคืนเงินให้ทันที
– ต้องส่งคนงานไปตรวจโรค ณ สถานพยาบาลตามที่กรมการจัดหางานประกาศรายชื่อไว้
– ต้องส่งคนหางานไปทดสอบฝีมือ ณ สถานทดสอบฝีมือตามที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานอนุญาต
– ต้องพาคนงานเข้ารับการฝึกอบรมจากเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางานก่อนเดินทาง
– ต้องพาคนหางานเดินทางออกไปทำงานต่างประเทศผ่านด่านตรวจคนหางานของกรมการจัดหางาน
กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่งไปทำงาน
เป็นบริการของรัฐที่ส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ต้องเสียค่าบริการใด นอกจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าภาษี สนามบิน ค่าสมาชิกกองทุนฯ ค่าที่พักสำหรับเตรียมตัวก่อนเดินทาง
สถานที่รับสมัคร
– ต่างจังหวัด สมัครได้ที่สำนักงานจัดหางานทุกจังหวัดทั่วประเทศ
– กรุงเทพฯ สมัครที่สำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ฝ่ายพิจารณาการไปทำงานตามระบบ IOM และประเทศอื่นๆ กรมการจัดหางาน โทรศัพท์ 0-245-1034 สำนักจัดหางานกรุงเทพทุกพื้นที่
เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร
– รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป
– สำเนาทะเบียนบ้าน
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
– ใบผ่านงาน (ถ้ามี)
– สำเนาหนังสือเดินทาง (ถ้ามี)
*หมายเหตุ : คนหางานที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ควรเตรียมหนังสือเดินทางไว้ล่วงหน้า เนื่องจากนายจ้างจะพิจารณาคัดเลือกผู้มีหนังสือเดินทางก่อน
นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างของตนไปทำงาน
– กรณีนี้นายจ้างอาจมีบริษัทแม่อยู่ในต่างประเทศหรืออาจประมูลงานได้ จึงส่งคนงานที่อยู่ในประเทศไทยไปทำงานคนงาน ดังกล่าวยังมีฐานะเป็นลูกจ้าง ของนายจ้างในประเทศไทยจึงได้รับเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงเต็มจำนวน
นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างของตนไปฝึกงาน
ลักษณะนี้นายจ้างต้องขออนุญาตพาลูกจ้างในโครงการส่งไปฝึกงานต่างประเทศหรือบริษัทแม่หรือเครือข่ายเป็นการเรียนรู้พัฒนา ฝีมือลูกจ้างให้ทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
ผู้ที่จะไปทำงานติดต่อหางานเอง (ต้องแจ้งการเดินก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วัน)
กรณีนี้คนงานที่ติดต่อหางานต่างประเทศหรือจากคำแนะนำของญาติพี่น้อง เพื่อนหรือคนงานที่ทำงานครบตามสัญญาจ้างแล้วได้ต่อสัญญาจ้าง เมื่อเดินทางกลับมาพักผ่อนในประเทศไทย และจะเดินทางกลับไปทำงานอีกต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 10 วัน
เอกสารและของใช้ที่ควรนำติดตัวไป
– หนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)ให้ถ่ายสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย ประวัติตลอดจนหน้าที่มีวีซ่าเก็บแยกต่างหากจากพาสปอร์ตกรณีหายจะใช้เป็นหลักฐานได้
– บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส ใบขับขี่ (ถ้ามี)
– หลักฐานเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร สด.9
– รูปถ่ายขาว-ดำ ขนาดต่างๆ
– สัญญาจัดหางานและสัญญาจ้างแรงงานพร้อมสำเนา – บัตรสมาชิกกองทุน
– หลักฐานเหล่านี้ควรถ่ายเอกสารให้ครอบครัวเก็บรักษาไว้ 1 ชุด
การลงทะเบียน
– การลงทะเบียนผู้ประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศเป็นมาตรการที่ใช้คุ้มครองคนหางานเพื่อลดปัญหาการถูกหลอกลวงโดยสาย หรือนายหน้าจัดหางาน ตลอดจนลดค่าใช้ของคนหางานในการสมัครงาน และการติดตามว่าจะได้เดินเมื่อใด
คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน
– มีสุขภาพดีไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคติดต่อร้ายแรง
– มีฝีมือในตำแหน่งที่จะลงทะเบียน
– มีความพร้อมที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ
– อายุระหว่าง 20-40 ปี
เตรียมตัวเองให้พร้อม สำหรับใครที่กำลังรอโอกาสที่จะได้เดินทางไปยังตลาดใหม่ๆ ในต่างแดน เพราะโอกาส มีให้สำหรับคนที่เตรียมพร้อมรับโอกาสเสมอ
ที่มา : mol.go.th