แม้ว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินจะเป็นพาหนะที่ปลอดภัยและสะดวกรวดเร็วที่สุดก็ตาม แต่ก็ต้องแลกมากับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากความกดอากาศและสภาวะที่แตกต่างจากบนพื้นดิน
ขณะเดินทางหรือหลังจากเดินทาง คุณอาจมีอาการเหล่านี้ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ จึงควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
ภาวะออกซิเจนต่ำอาจทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนหรือปวดศีรษะ
แม้ว่าแรงดันบรรยากาศของห้องโดยสารจะได้รับการปรับเพื่อป้องกันความเจ็บป่วยจากการอยู่บนที่สูง แต่คุณก็ยังสามารถมีอาการง่วงนอนหรือปวดศีรษะได้ เพื่อช่วยป้องกันอาการปวดศีรษะควรดื่มน้ำปริมาณมากและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
อาการเท้าบวมเนื่องจากเลือดไหลลงเท้า
การนั่งกับที่นานๆ ติดต่อกันหลายชั่วโมง อาจมีผลต่อการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกายที่นำไปสู่การบวมที่เท้าและข้อเท้าของคุณ ในการเดินทางจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่สวมถุงเท้ารองเท้าหรือถุงน่องที่รัดแน่น เพื่อให้เลือดสามารถเดินได้สะดวก
คุณอาจเผชิญภาวะขาดน้ำ
แม้จะมีระบบปรับอากาศแต่ความชื้นบนเครื่องบินโดยสารมักมีน้อยมาก ภาวะขาดน้ำอาจนำไปสู่ความรู้สึกเมื่อยล้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมกับความดันลดลงจากอากาศในห้องโดยสาร วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือพยายามดื่มน้ำให้เพียงพอในชีวิตประจำวันเพื่อสร้างสมดุลในร้างกาย
การเปลี่ยนแปลงความดันในห้องโดยสารทำให้คุณมีแก๊ส
คุณอาจรู้สึกท้องอืด หรือมีแก๊สในท้องมากกว่าปกติเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงความดันภายในห้องโดยสารมีผลต่อความดันในร่างกายของมนุษย์ สิ่งที่ควรทำก็คือหาห้องน้ำแล้วปล่อยลมเหล่านั้นออกมาซะ
ความดันทำให้หูอื้อ
เช่นเดียวกับอาการแก๊สในร่างกายเพิ่มขึ้น ความดันที่เปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดอาการหูอื้อ ซึ่งหมากฝรั่งเป็นอะไรที่ช่วยได้มาในกรณีนี้
ปุ่มรับรสอาจทำงานได้ไม่เต็มที่
อาหารบนเครื่องบินนั้นอาจไม่อร่อยเท่าที่คุณคิด อากาศที่มีความชื้นต่ำจะทำให้เยื่อเมือกของปากและจมูกแห้งซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้สึกของคุณ วิธีง่ายๆ ในการทำให้การรับรสชาติกลับมาเนปกติคือดื่มน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
การเคลื่อนตัวของอากาศอาจทำให้เกิดอาการปวดฟัน
แม้ว่าแก๊สในร่างกายจะไม่ส่งผลกับฟันโดยตรงแต่แก๊สที่ติดอยู่ในบริเวณฟันที่ผุหรือในฟันปลอมก็ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นมาได้เหมือนกัน และสิ่งที่คุณทำได้คือการกินยาแก้ปวดรือไปพบทันตแพทย์
ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น
เมื่ออยู่ในสภาวะที่ความชื้นในอากาศน้อยอาจตามมาด้วยอาการผิวแห้ง คุณควรดื่มน้ำเป็นประจำและใช้ครีมบำรุงที่เน้นในเรื่องความชุ่มชื้น รวมถึงการสครับผิวเพื่อให้เซลล์ที่ตายแล้วหลุดออกไปก็ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บความชื้นเอาไว้ได้
อาจมีกลิ่นปาก
อาการนี้เกิดจากเมื่อคุณอยู่ในสภาวะขาดน้ำ อาจไม่มีการผลิตน้ำลายที่มากพอและก่อให้เกิดแบคทีเรียในช่องปากส่งผลให้เกิดเป็นกลิ่นปากได้
การบินระยะทางไกลจะทำให้ตารางชีวิตรวน
เรียกง่ายๆ ก็คืออาการ jet lag นั่นเอง สิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวได้เร็วที่สุดคือพยายามออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งและใช้เวลาไปตามนาฬิกาของประเทศที่คุณอยู่ เพื่อให้เกิดความเคยชินเร็วที่สุด
คุณจะไม่ป่วยจากการนั่งในห้องโดยสาร
แม้ว่าการติดเชื้อในอากาศจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นต่ำเช่นในเครื่องบิน แต่ความเสี่ยงในการป่วยจากเครื่องบินมีต่ำมากเนื่องจากตัวกรอง HEPA
ถ้าคุณไม่ได้นั่งข้างคนที่ไอหรือจามก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไปว่าจะไม่สบาย อย่างไรก็ตามแบคทีเรียมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวของห้องโดยสาร ดังนั้นควรล้างมือบ่อยๆ เท่าที่จะทำได้เช่นกัน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เดินทางบ่อย ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมอยู่เสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีและไม่ทรุดโทรมก่อนเวลาจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
ที่มา : www.rd.com