นี่เป็นเหตุผลจากการวิจัย ว่าทำไมแฟนคลับ Harry Potter มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนดี!?

Harry Potter เป็นส่วนสำคัญในวัยเด็กของผู้คนนับล้าน แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นแฟนคลับตัวยงแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวของพ่อมดน้อยคนนี้

เด็กๆ ที่เติบโตมากับ Harry Potter มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะเป็นคนที่ดีกว่าเดิม ซึ่งข้อมูลนี้ได้มาจากการวิจัยเล่มหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสารจิตวิทยาสังคมประยุกต์ เกี่ยวกับหัวข้อ “คนที่มีอารมณ์ผูกพันกับแฮร์รี่พอตเตอร์มีโอกาสน้อยมากที่จะมีอคติต่อกลุ่มชนกลุ่มน้อย ”

อย่างที่รู้กันว่า Harry Potter เป็นซีรรีส์หนังสือชุดที่แต่ละภาคก็จะมีรูปแบบของเรื่องราวที่หลกหลาย นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับอคติที่มีต่อความชั่วร้ายแฝงเอาไว้

ตัวร้ายหลักของเรื่องคือโวลเดอร์มอร์ พ่อมดฝ่ายมืดที่หมกมุ่นอยู่กับการเป็นเลือดบริสุทธิ์ และจ้องที่จะขจัดเหล่าเลือดสีโคลนหรือพ่อมดแม่มดที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไร้เวทมนตร์(ที่เรียกกันว่ามักเกิ้ล)

ในการศึกษา การเติบโตมากับเรื่องราวเหล่านี้ดูเหมือนจะมีบทบาทสำคัญในการที่เด็กจะเติบโตขึ้นมาเพื่อมองเห็นและยอมรับเด็กคนอื่นๆ ที่แตกต่างจากตัวเอง

นักวิจัยลองสัมภาษณ์เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาจำนวน 34 คน เกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อผู้อพยพแล้วให้แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม

กลุ่มหนึ่งอ่านเรื่องเกี่ยวกับเดรโกร มัลฟอย ซึ่งเรียกเฮอร์ไมโอนี่ว่าเลือดสีโคลน (ในหนังสือบอกว่านี่คือคำหยาบคายที่ใช้เหยียดผู้อื่น)

และอีกกลุ่มอ่านบทอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับความอยุติธรรม อย่างตอนที่แฮร์รี่ซื้อไม้กายสิทธิ์เป็นครั้งแรก

อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา พวกเด็กๆ ก็ได้ถูกสัมภาษณ์อีกครั้งเกี่ยวกับทัศนคติที่ตัวเองมีต่อผู้อพยพ ซึ่งผลที่ได้คือเด็กที่อ่านเรื่องราวของมัลฟอยได้ลดอคติลงไป ส่วนเด็กที่อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ให้ความเห็นแบบเดิม

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หลังจากที่ได้สัมผัสกับความเกลียดชังและโหดร้ายของมัลฟอย เด็กๆ ได้แสดงความอดทนและความเมตตามากขึ้น

มีการทดลองแบบติดตามผลอีกสองครั้งในการศึกษา ซึ่งกลุ่มคนที่ถูกถามเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขาต่อชนกลุ่มน้อย หลังจากที่ได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับแฮร์รี่และเพื่อนๆ พบว่านักเรียนมัธยมปลายมีทัศนคติที่ดีต่อเพศที่สาม ในขณะที่นักศึกษาวิทยาลัยมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ลี้ภัยมากขึ้น

“Harry Potter คือหนังสือที่พยายามจะสื่อความเอาใจใส่ต่อผู้อื่นลงไปในตัวอักษร เพื่อดำเนินการต่อความไม่เสมอภาคทางสังคม”

ดร. Loris Vezzali ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยโมเดนาและ Reggio Emilia กล่าว

“ดังนั้น พวกเราจึงคิดว่าความรู้สึกที่เห็นอกเห็นใจเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการลดอคติในโลกของ Harry Potter ซึ่งเป็นโลกที่มีลำดับชั้นทางสังคมที่เข้มงวดและเป็นผลให้เกิดอคติ ที่คล้ายกันอย่างเห็นได้ชัดกับสังคมของเรา”

พวกเขาเสริมว่า “Harry พยายามที่จะเข้าใจและตระหนักถึงความยากลำบากของคนในชนชั้นล่างๆ ซึ่งบางส่วนเกิดขึ้นจากการแบ่งแยกระหว่างกลุ่มและต่อสู้เพื่อโลกที่ปราศจากความไม่เสมอภาคทางสังคม”

เราจะเห็นได้ว่า ตัวละครใน Harry Potter แทบทุกตัวจะมีเรื่องที่เป็นเเผลในใจ อย่าง แฮร์รี่มีแผลเป็นที่หน้าผาก รอนต้องใช้ของมือสอง ส่วนเฮอร์ไมโอนีมีพ่อแม่เป็นมักเกิล ซึ่งนำไปสู่คำถามที่ว่า ทำไมความแตกต่างของพวกเขาจึงมีความสำคัญ เพราะนั่นคือหนึ่งปัจจัยหลักที่ต้องการจะสื่อว่า ความแตกต่างไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณค่าของมนุษย์

สุดท้ายมีคำพูดของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ความแตกต่างของนิสัยและภาษา ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เพราะสิ่งที่เรามีเหมือนกันคือเป้าหมายและหัวใจที่เปิดกว้าง…”