การจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit หรือ EIU ซึ่งใช้การวัดผลแบ่งเป็น 4 หมวดหลัก ๆ ได้แก่ ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคล ความปลอดภัยด้านไอที และ ความปลอดภัยด้านโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ส่วนจะมีเมืองอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่า
15. เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน : 75.16 คะแนน
3 ปีที่ผ่านมาทางสภาเทศบาลเมืองบาร์เซโลนา ได้เริ่มกำหนดนโยบายจัดวางเวรยามตำรวจให้ทำการตรวจตาตามท้องถนนมากยิ่งขึ้น จึงทำให้การเกิดอาชญากรรมในเมืองน้อยลงกว่า 32 % ทำให้ในปีนี้บาร์เซโลนา ประเทศสเปนติดอันดับที่ 15 เมืองปลอดภัยที่สุดในโลก ปี 2016 ที่ผ่านมา
14. เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา : 75.6 คะแนน
เมืองมอนทรีออลนอกจากจะเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอันดับที่ 14 แล้ว ยังเป็นเมืองที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสำหรับการลงทุนทำธุรกิจอันดับ 4 ของโลก และนอกจากยังนี้ยังเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยของอาหารอันดับ 8 ของโลก ตามที่ EIU ได้ทำการสำรวจไว้อีกด้วย
13. เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน : 76.51 คะแนน
ถ้าวัดกันในเรื่องความปลอดภัยโดยรวมแล้วไทเปอาจจะติดอยู่ในอันดับที่ 13 แต่ถ้าแยกดูตามหัวข้อที่กำหนดมานั้นเรื่องของความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคล ไทเปนั้นอยู่ติดในอันดับที่ 4 ของโลกเลยทีเดียว
12. เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา : 76.63 คะแนน
เมืองซานฟรานซิสโกมีความปลอดภัยสูงมากขึ้นหลังจากในปี 2014 ได้มีการจัดวางเจ้าหน้าที่ดูแลในด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ และมีการเฝ้าระวังในทุก ๆ อย่าง ทั้งเรื่องความหนาแน่นของประชากร การย้ายถิ่นฐาน ตลอดจนเรื่องความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
11. ฮ่องกง ประเทศจีน : 77.24 คะแนน
ฮ่องกงได้ชื่อว่ามีความปลอดภัยทางด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) สูงมาก โดยมีคะแนนความปลอดภัยด้านไอทีอย่างเดียวสูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก แต่คะแนนด้านอื่น ๆนั้นยังไม่สูงเท่าเมืองอื่นๆ จึงทำให้ในปี 2016 ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยอยู่ในอันดับ 11 ของโลก
10. เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา : 78.06 คะแนน
เมืองหลวงของประเทศสหรัฐฯ เป็นอีกเมืองที่นอกจากจะมีความปลอดภัยอยู่ในอันดับที่ 10 แล้ว ยังเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัยของประชากรสูงมาก โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันโรคระบาดต่างๆ
9. เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย : 78.67 คะแนน
เนื่องจากเมลเบิร์นเป็นเมืองที่มีระบบการคมนาคมที่ดีมาก จึงทำให้มีความปลอดภัยในท้องถนนค่อนข้างสูงกว่าหลาย ๆ เมืองจากทั่วโลก และคะแนนโดยรวมนั้นถือว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจมากเลยทีเดียว
8. เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา : 78.81 คะแนน
เมืองโตรอนโตขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 5 ของโลก นอกจากจะเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยในด้านต่าง ๆแล้ว ยังเป็นเมืองที่น่ามาลงทุนทำธุรกิจหรือทำงานในสายงานต่างๆ นอกจากนี้ยังมีค่าครองชีพที่ดีอีกด้วย
7. เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ : 78.84 คะแนน
เป็นอีกเมืองที่ดีมาก ๆ ทั้งในด้านความปลอดภัยและด้านสุขอนามัยอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งคะแนนที่ได้ไปในปีนี้ถือว่าสูงพอสมควร จึงทำให้ได้อันดับที่ 7 ไปครองนั่นเอง
6. เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย : 78.91 คะแนน
อีกหนึ่งเมืองใหญ่ของประเทศออสเตรเลียที่ทำคะแนนแซงหน้าเมืองเมลเบิร์นมาได้ ซึ่งซิดนีย์นั้นเป็นเมืองที่มีคะแนนความปลอดภัยด้านโครงสร้างพื้นฐานของเมืองค่อนข้างสูงเลยทีเดียว และมีคะแนนความปลอดภัยด้านขนส่งมวลชนสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
5. เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ : 79.19 คะแนน
เป็นเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากรในเขตเมืองไม่มากเท่าไหร่ โดยมีผู้คนอาศัยอยู่เพียง 800,000 คนเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าเมืองอื่น ๆ จึงสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้โดยง่าย ทำให้มีความปลอดภัยมากกว่าเมืองอื่นๆ และติดอยู่ในอันดับค่อนข้างสูงในปี 2016
4. เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน : 80.02 คะแนน
สตอกโฮล์มเมืองหลวงของประเทศสวีเดนมีความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) สูงมาก และเป็นเพียงหนึ่งเดียวของเมืองในยุโรปที่ติดอยู่ใน Top 10 เรื่องความปลอดภัยทางด้านไอที ส่วนที่เหลือเป็นเมืองจากประเทศแถบเอเชียและอเมริกาทั้งหมด
3. เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น : 82.36 คะแนน
โอซาก้าเป็นเมืองที่มีคะแนนสูงมากถึง 2 ด้านด้วยกัน ทั้งด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยด้านไอที จึงทำให้เมืองโอซาก้าเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอันดับที่ 3 ของโลกในปีนี้
2. สิงคโปร์ : 84.61 คะแนน
สิงคโปร์ได้อันดับที่ 1 ในด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล แต่ด้วยคะแนนโดยรวมในด้านอื่นๆ นั้นยังไม่สามารถทำให้ขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ของโลกได้ จึงทำให้ในปีนี้อยู่ในอันดับที่ 2 ของโลกในด้านความปลอดภัย
1. เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น : 85.63 คะแนน
แม้ว่าโตเกียวจะเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรหนาแน่นอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกก็ตาม (ซึ่งมีถึง 38 ล้านคนด้วยกัน) แต่ก็ยังจัดว่าเป็นเมืองที่มีคะแนนความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ สูงมากเลยทีเดียว จึงทำให้ได้อันดับที่ 1 ของโลกไปครองในปี 2016
ที่มา: postjung